เผยโฉม 10 ประเทศที่ถือครองทองคำมากสุดในโลก ท่ามกลางราคาที่ปรับตัวขึ้น หลังสหรัฐประกาศนโยบายคิวอี 3 แบบไร้ขีดจำกัด
ราคาทองคำได้แรงผลักจากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่นักลงทุนมองหา ท่ามกลางความวิตกว่าอาจก่อภาวะเงินเฟ้อ และทำให้มูลค่าของเงินลดลง นอกจากนี้ ธนาคารกลางของแต่ละประเทศยังสะสมทองคำในคลังเพิ่มขึ้นด้วย
จากข้อมูลของสภาทองคำโลก ประจำเดือนกันยายน ระบุว่า ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ซื้อทองคำมากถึง 157.5 ตัน ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ เพิ่มขึ้น 63% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 137.9% เมื่อเทียบจากปีก่อน
เมื่อพิจารณาข้อมูลการถือครองทองคำจากที่แต่ละประเทศรายงานต่อสภาทองคำโลก และคำนวณสัดส่วนการถือครองทองคำที่อยู่ในทุนสำรองระหว่างประเทศ พบว่า ประเทศที่ร่ำรวยทองคำในท้องพระคลังมากสุด คือ “สหรัฐ” โดยตัวเลขถือครองทองคำอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 8,133.5 ตัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 75.4% ของทุนสำรอง สหรัฐเคยครอบครองทองคำมากสุดในโลกถึง 20,663 ตัน ในปี 2495 ก่อนลดระดับลงต่ำกว่าหลักหมื่นตันตั้งแต่ปี 2511
รองแชมป์ที่ถือครองทองคำมากสุด คือ “เยอรมนี” สะสมทองคำไว้ 3,395.5 ตัน คิดเป็นสัดส่วน 72.3% ในทุนสำรองระหว่างประเทศ ก่อนหน้านี้ เยอรมนีเคยขายทองคำภายใต้ข้อตกลงระหว่างธนาคารกลาง (ซีบีจีเอ) ฉบับที่ 1 และ 2
โดยข้อตกลงแต่ละฉบับมีอายุ 5 ปี ขณะที่ข้อตกลงฉบับปัจจุบัน ซึ่งเป็นฉบับที่ 3 (27 กันยายน 2552-26 กันยายน 2557) กำหนดข้อตกลงในการขายทองคำไม่เกิน 400 ตันต่อปี หรือไม่เกิน 2,000 ตัน ตลอดเวลา 5 ปี แต่ธนาคารกลางเยอรมนี หรือที่เรียกว่า บุนเดสแบงก์ ขายทองคำออกมา 6 ตัน ในปี 2552 และขายไปราว 4.7 ตัน นับจากวันที่ 7 กันยายน 2554
อันดับ 3 “อิตาลี” แดนมะกะโรนีถือครองทองคำอย่างเป็นทางการ 2,451.8 ตัน หรือมีทองคำคิดเป็น 71.2%ในทุนสำรองระหว่างประเทศ ก่อนหน้านี้ แบงก์ชาติอิตาลีไม่ได้ประกาศขายทองคำภายใต้ข้อตกลงซีบีจีเอ ฉบับ 1 และ 2 รวมถึงไม่มีแผนขายทองคำในข้อตกลงฉบับปัจจุบัน ขณะที่เมื่อปีที่แล้ว ธนาคารในอิตาลีต่างเชียร์ให้ธนาคารกลางอิตาลีซื้อทองคำ และหนุนบัญชีงบดุลของธนาคารต่างๆ ก่อนการทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test)
อันดับ 4 “ฝรั่งเศส” สะสมทองคำไว้ราว 2,435.4 ตัน มีสัดส่วนทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศ 71.7% แดนน้ำหอมเคยขายทองคำ 572 ตัน ภายใต้ข้อตกลงซีบีจีเอ ฉบับ 2 อีกทั้งใช้ทองคำ 17 ตัน เพื่อซื้อหุ้นในธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (บีไอเอส) ในปลายปี 2547 แต่ไม่มีแผนจะขายทองคำภายใต้ข้อตกลงฉบับล่าสุด
อันดับ 5 “จีน” ถือครองทองคำประมาณ 1,054.1 ตัน ขณะที่สัดส่วนทองคำในทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ระดับ 1.7% ซึ่งยังค่อนข้างน้อยมาก เมื่อเทียบจากทุนสำรองระหว่างประเทศที่จีนมีสูงถึง 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ การสะสมทองคำเพิ่มเติมในทุนสำรองถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับจีนที่จะผลักดันค่าเงินหยวนสู่สากล
อันดับ 6 “สวิตเซอร์แลนด์” ตุนทองคำไว้ 1,040.1 ตัน มีสัดส่วนทุนสำรองที่อยู่ในรูปทองคำคิดเป็น 12.1% ก่อนหน้านี้ ทางการสวิสประกาศขายทองคำ 1,300 ตัน ที่ประเมินว่าเกินกว่าความจำเป็นในการดำเนินนโยบายการเงิน โดยทยอยขาย 1,170 ตัน ภายใต้ข้อตกลงซีบีจีเอฉบับแรก และขายอีก 130 ตัน ภายใต้ข้อตกลงฉบับที่ 2 แต่ยังไม่มีแผนขายทองคำในข้อตกลงฉบับปัจจุบัน
อันดับ 7 ได้แก่ “รัสเซีย” ที่มีทองคำ 936.6 ตันในคลังหลวง หรือคิดเป็น 9.6% ในทุนสำรองระหว่างประเทศทั้งหมด โดยรัสเซียเริ่มสะสมทองคำตั้งแต่ปี 2549 เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับในตะกร้าทุนสำรอง
อันดับ 8 “ญี่ปุ่น” ถือครองทองคำอยู่ราว 765.2 ตัน คิดเป็นสัดส่วนในทุนสำรอง 3.1% ทางการญี่ปุ่นมีทองคำในมือแค่ราว 6 ตัน ในยุค 1950 ธนาคารกลางญี่ปุ่นเริ่มจริงจังกับการตุนทองเมื่อปี 2502 อยู่ที่ 169 ตัน แต่ในปีที่แล้ว แบงก์ชาติญี่ปุ่นต้องขายทองคำออกมา เพื่อปั๊มเงิน 20 ล้านล้านเยน สู่ระบบเศรษฐกิจ หลังเกิดเหตุสึนามิพัดถล่มและวิกฤติโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
อันดับ 9 “เนเธอร์แลนด์” สะสมทองคำไว้ 612.5 ตัน คิดเป็นสัดส่วน 60.7% ของทุนสำรอง เนเธอร์แลนด์ขายทองคำ 235 ตัน ภายใต้ข้อตกลงซีบีจีเอฉบับแรก และ 165 ตัน ในฉบับที่ 2 แต่ไม่มีแผนขายทองคำในข้อตกลงฉบับปัจจุบัน
อันดับ 10 “อินเดีย” ถือครองทองคำ 557.7 ตัน คิดเป็น 9.9% ของทุนสำรองระหว่างประเทศ เป็นที่ทราบกันดีว่า ธนาคารกลางอินเดียให้ความสำคัญกับทองคำในฐานะการลงทุนที่ปลอดภัย อีกทั้งเป็นผู้ซื้อทองคำรายสำคัญจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) แต่รัฐบาลมักไม่เปิดเผยแผนการซื้อทองคำต่อสาธารณะ
ส่วน “ไทย” สะสมทองคำมากเป็นอันดับ 25 มีอยู่ 152.4 ตัน หรือคิดเป็น 4.5% ของทุนสำรองระหว่างประเทศ
ข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ
ข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจ
ปริมาณทองคำสำรอง ที่ถือครองโดยธนาคารกลางของแต่ละประเทศ หรือกลุ่มองค์กรทางการเงินระหว่างประเทศ
| อันดับ | ประเทศ/องค์กร | ปริมาณทองคำ (ตัน) | สัดส่วนของ ทุนสำรองระหว่างประเทศ |
|---|---|---|---|
| 1 | 8,133.5 | 76.6% | |
| 2 | 3,396.3 | 73.7% | |
| - | 2,814.0 | ||
| 3 | 2,451.8 | 73.4% | |
| 4 | 2,435.4 | 71.8% | |
| 5 | 1,054.1 | 1.8% | |
| 6 | 1,040.1 | 15.3% | |
| 7 | 907 | 42.0% | |
| 8 | 883.2 | 9.2% | |
| 9 | 765.2 | 3.5% | |
| 10 | 612.5 | 61.9% | |
| 11 | 557.7 | 09.6% | |
| - | 502.1 | 35.0% | |
| 12 | 422.4 | 5.9% | |
| 13 | 382.5 | 89.2% | |
| 14 | 372.9 | 67.7% | |
| 15 | 322.9 | 3.3% | |
| 16 | 310.3 | 17.6% | |
| 17 | 286.8 | 32.2% | |
| 18 | 281.6 | 39.2% | |
| 19 | 280.0 | 57.0% | |
| 20 | 227.5 | 41.2% | |
| 21 | 173.6 | 79.5% | |
| 22 | 152.4 | 4.6% | |
| 23 | 143.8 | 5.6% | |
| 24 | 142.7 | 10.4% | |
| 25 | 127.4 | 3.0% | |
| 26 | 125.7 | 13.6% | |
| 27 | 125.0 | 13.8% | |
| - | ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ | 119.0 | |
| 28 | 116.1 | 7.0% | |
| 29 | 111.7 | 81.3% | |
| 30 | 106.3 | 4.0% | |
| 31 | 103.7 | 11.3% | |
| 32 | 102.9 | 5.3% | |
| 33 | 79.9 | 09.5% | |
| 34 | 79.0 | 13.8% | |
| 35 | 75.6 | 14.8% | |
| 36 | 73.1 | 3.5% | |
| 37 | 73.6 | 12.5% | |
| 38 | 66.5 | 4.1% | |
| 39 | 64.4 | 18.9% | |
| 40 | 54.7 | 6.4% | |
| 41 | 49.3 | 22.9% | |
| 42 | 49.1 | 24.6% | |
| 43 | 39.9 | 12.0% | |
| 44 | 39.4 | 0.7% | |
| 45 | 38.5 | 41.4% | |
| - | ประชาคมเศรษฐกิจแห่งแอฟริกาตะวันตก | 36.5 | 12.9% |
| 46 | 36.4 | 1.5% | |
| 47 | 34.7 | 4.0% | |
| 48 | 33.6 | 0.5% | |
| 49 | 31.8 | 67.6% | |
| 50 | 27.9 | 4.5% | |
| 51 | 26.3 | 32.0% | |
| 52 | 25.8 | 7.9% | |
| 53 | 22.0 | 5.6% | |
| 54 | 21.4 | 03.2% | |
| 55 | 14.1 | 5.1% | |
| 56 | 13.9 | 58.3% | |
| 57 | 13.5 | 07.5% | |
| 58 | 13.1 | 36.3% | |
| 59 | 12.8 | 5.5% | |
| 60 | 12.5 | 1.6% | |
| 61 | 12.4 | 4.4% | |
| 62 | 12.4 | 16.6% | |
| 63 | 10.4 | 1.8% | |
| 64 | 8.8 | 36.5% | |
| 65 | 8.1 | 5.3% | |
| 66 | 7.7 | 5.5% | |
| 67 | 7.3 | 14.6% | |
| 68 | 6.9 | 5.8% | |
| 69 | 6.8 | 14.8% | |
| 70 | 6.7 | 4.5% | |
| 71 | 6.0 | 15.1% | |
| 72 | 6.0 | ||
| 73 | 5.8 | 4.1% | |
| 74 | 4.7 | ||
| 75 | 4.4 | ||
| 76 | 3.9 | 6.5% | |
| 77 | 3.4 | 0.3% | |
| 78 | 3.2 | 15.8% | |
| 79 | 3.1 | 24.2% | |
| 80 | 3.1 | 0.3% | |
| 81 | 2.6 | 7.5% | |
| 82 | 2.3 | 4.8% | |
| 83 | 2.2 | 10.6% | |
| 84 | 2.2 | 13.1% | |
| 85 | 2.1 | 0.05% | |
| 86 | 2.0 | 1.3% | |
| 87 | 2.0 | 2.8% | |
| 88 | 1.9 | 1.1% | |
| 89 | 1.6 | 3.4% | |
| 90 | 1.6 | 1.8% | |
| 91 | 0.9 | 1.2% | |
| 92 | 0.7 | 1.4% | |
| 93 | 0.7 | 0.7% | |
| 94 | 0.6 | 1.1% | |
| 95 | 0.4 | 0.8% | |
| 96 | 0.4 | 8.9% | |
| 97 | 0.3 | 8.4% | |
| 98 | 0.3 | 2.4% | |
| 99 | 0.3 | 0.4% | |
| 100 | 0.3 | 0.1% | |
| 101 | 0.2 | - | |
| 102 | 0.2 | 6.0% | |
| 103 | 0.2 | - | |
| 104 | 0.2 | 1.6% | |
| 105 | 0.1 | 0.1% | |
| 106 | 0.0 | 0.1% | |
| 107 | 0.0 | 0.5% | |
| รวม | 30,807.6 |