วันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เรื่อง aot ผมเจอหลายคนเลยครับ ถามว่าไม่กลัวบอร์ดโดนเปลี่ยนหรือ

เรื่อง aot ผมเจอหลายคนเลยครับ ถามว่าไม่กลัวบอร์ดโดนเปลี่ยนหรือ ผมตอบว่า  ถ้าเปลี่ยนบอร์ดแล้ว
-สุวรรณภูมิเฟสสอง คิดว่ายังสร้างไหม
-Terminal 2ที่ ภูเก็ต ดอนเมือง จะเปิดไหม
-ในอนาคต ค่าธรรมเนียม ค่าต้องปรับขึ้นไหม
-การเมือง หากนิ่งระดับนึง นักท่องเที่ยวจะเพิ่มไหม
-นักท่องเที่ยวทุกคน ที่เข้ามาใน ปท ต้องจ่าย ค่าธรรมเนียมให้ AOT ไหม
-นักท่องเที่ยวที่เข้ามาแล้ว เที่ยวตาม จว ท่องเที่ยวต่างๆ บินใน ปท ทุกคนต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้ใคร

อนึ่ง ภาครัฐ ไม่ว่า รบ ไหน หากต้องการให้ ศกฟื้นตัว เงินไหลเข้า ปท ยิ่งในยามที่เงินไหลออก มีสองอุตสาหกรรมหลักที่ รัฐต้องเร่งสนับสนุนทุกวิถีทาง คือ ส่งออก และ ท่องเที่ยว

วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เรื่องชี้มูลความผิด 3G จะส่งผลกระทบต่อการประมูล 4G อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เรื่องชี้มูลความผิด 3G จะส่งผลกระทบต่อการประมูล 4G อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
น้าแอดลูกค้าที่เพิ่มขึ้น และจากการไป AGM ที่ผ่านมา ผบห ได้บอกว่า แบนวินธ์ในเมืองบาง พท เริ่มแน่น เริ่มเต็มแล้ว (เฉพาะในเมือง และบาง พทเท่านั้น จึงต้องใช้วิธีเสริม Small site)
ส่วนตัวเข้าใจว่าหากได้ 4G มา จะช่วยแบ่งเบา 3G ได้ระดับนึง เนื่องจาก ลูกค้าเป้าหมายของ 4G คือลูกค้าในเมืองเป็นหลัก แต่หากการประมูลล่าช้าออกไป ย่อมส่งผลเสียต่อน้าแอดแน่นอน
เกรงว่าหากติดขัด จะทำให้น้าแอด "มีโอกาส" เข้าสู่สถานการณ์ที่เคยเป็นในช่วงปลายปี 55 ถึงกลางปี 56  คือแบนวิธไม่พอจนคุณภาพตก ลูกค้าย้ายค่าย
เป็นแค่มุมมองในด้านลบนะครับ
ทุกอย่างอาจไม่ได้เป็นแบบที่ว่า ก็ได้ ที่มองไปคือมองถึงความเสี่ยงเท่านั้น
การประมูล 4G อาจยืดเยื้อกว่าที่ควรจะเป็นก็เป็นได้
Dtac true ไม่โดนกระทบมากในเรื่อง 4G หากการประมูลยืดออกไป เพราะแบนวิธ ยังเหลือ โดยเฉพาะดีแทค เหลือมากพอถึงขั้นคืนคลื่นให้ กสทช ไปประมูลใหม่
ไม่ได้เชียร์ให้ขายหุ้นนะครับ สำหรับคนที่มี เพียงแต่มาเล่าเหตุผลให้ฟัง ถึงจุดอ่อนของน้าแอดต่อเหตุการณ์ในช่วงนี้ ให้ฟังครับ
หุ้น big cap แบบน้าแอด ผมเชื่อว่าไม่มีใครสามารถชี้นำราคาได้ นอกจากตัวธุรกิจเอง
ผมมองว่า ถ้าเป็นแบบนี้ ส่วนที่ผบหทำได้คือการลด SG&A โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการทำโปรโมชั่นต่างๆ ค่าใช้จ่ายการตลาด ในสองไตรมาสที่ผ่านมาของน้าแอดเพิ่มสูงมาก จนตัวเลขกำไรออกมาไม่สวย ที่ต้องลด SG&A เพื่อให้สอดคล้องกับการที่ไม่สามารถรองรับลูกค้าเพิ่มได้มากๆ เนื่องจากข้อจำกัดด้านแบนวิธ และการลด คชจ จะทำให้ตัวเลขกำไรดีขึ้น แต่ปริมาณการเพิ่มขึ้นของลูกค้าจะเพิ่มช้าลง เพื่อให้แบนวิธที่มีอยู่พอให้บริการลูกค้าเก่า
ดังนั้นตัวเลขกำไร ไตรมาสสามเป็นต้นไปเชื่อว่าจะดูดีจากการลด คชจ (แต่ความเสี่ยงเรื่องคลื่นยังคงมีอยู่)
ความเสี่ยงทั้งหมดที่เล่านี้ ก่อนหน้านั้นไม่มีนะครับ

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Charts เปรียบเทียบ Advanc และ Dtac

Charts เปรียบเทียบ Advanc และ Dtac


หลังจากมีการประมูล 3G แล้ว รายได้ Voice Dtac ลดลงเร็วมาก



หลังจากประมูล 3G แล้วรายได้  Non-voice ของ Advanc เพิ่มอย่างเห็นได้ชัด




D&A ของ Advanc เพิ่มค่อยข้างเร็วจากการลงทุนทีเพิ่ม (เร่งติดตั้งเครือข่ายเพิ่ม)



แต่ภาพรวม ต้นทุนการให้บริการ (Regulatory fee+D&A+Network operating expenses)
Advanc จัดการได้ดีกว่า ยกเว้น 1Q14 ที่ไม่ลดลงอย่างที่ควร


ต้นทุนการให้บริการ (Total cost of service) ของ Advanc 1Q14
ที่ลดลงน้อยกว่าที่ควรจะเป็นเพราะเหตุผลตามรูปข้างล่าง



ในไตรมาสที่ 1/2557 เอไอเอสมีผู้ใช้บริการรวม 42 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้น
1.5 ล้านเลขหมายจาก 41 ล้านเลขหมายในไตรมาสที่แล้ว


ณ สิ้น ไตรมาส 1/2557 ดีแทคมีจำนวนผู้ใช้บริการรวม 28.2 ล้าน
เลขหมาย เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาประมาณ 284,000 เลขหมาย







วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ประกาศกฎอัยการศึก-วันรัฐประหาร

สำหรับใช้อ้างอิง ช่วงเวลา


ลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่ประกาศกฎอัยการศึก-วันรัฐประหาร

วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม 2557 เวลา 08:50:15 น. 
ผู้เข้าชม : 32 คน 

สรุปเหตุการณ์วันที่ 20 พ.ค.ประกาศใช้กฏอัยการศึก และ22 พ.ค. 2557 วันยึดอำนาจการปกครองในประเทศไทย

รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เวลา 16.30 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. (อังกฤษ: National Peace and Order Maintaining Council ) โดยพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นหัวหน้าคณะ นับเป็นการรัฐประหารครั้งที่ 13 ในประวัติศาสตร์ไทย ก่อนหน้านี้ เกิดรัฐประหารในวันที่ 19 กันยายน 2549
สองวันก่อนหน้านั้น พลเอก ประยุทธ์ ประกาศกฎอัยการศึก ตั้งแต่เวลา 03:00 นาฬิกา ด้วยการอาศัยอำนาจตามกฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 ต่อมากองทัพบกได้ออกประกาศยุติการดำเนินการของศูนย์อำนายการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) และจัดตั้ง กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) ขึ้นแทนโดยมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ผอ.รส.) และออกประกาศคำสั่ง และขอความร่วมมือในหลายเรื่อง เช่น ขอให้ระงับการแพร่ภาพออกอากาศ โทรทัศน์ดาวเทียมและวิทยุชุมชน ขอความร่วมมือในการเผยแพร่เนื้อหาทางอินเทอร์เน็ต และเชิญประชุมข้าราชการระดับสูง ผู้นำกลุ่มการเมือง ตัวแทนพรรคการเมืองต่าง ๆ เป็นต้น
เบื้องหลังลำดับเหตุการณ์ 20 พฤษภาคม
03:30 น. - กำลังทหารพร้อมอาวุธ เข้าควบคุมที่ทำการช่องโทรทัศน์ต่างๆ ทั้งภาคพื้นดินและผ่านดาวเทียมหลายช่อง โดยร้องขอให้เชื่อมสัญญาณออกอากาศ จากสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5
04:00 น. - สื่อสังคมออนไลน์ เผยแพร่คำสั่ง ประกาศกฎอัยการศึก และประกาศจัดตั้ง กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.)
06:30 น. - ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะ ผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ออกประกาศใช้กฎอัยการศึก ทั่วราชอาณาจักร ทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย
08:25 น. - กอ.รส.ออกคำสั่งฉบับที่ 1 ให้สื่อวิทยุและโทรทัศน์ทั้งหมด รับสัญญาณถ่ายทอด แถลงการณ์จากกองทัพบก ทุกครั้งที่ได้รับการประสาน
08:42 น. - กอ.รส.ออกคำสั่งฉบับที่ 2 ให้ผู้ชุมนุมทางการเมืองอยู่ในพื้นที่เดิม โดย กปปส. ให้อยู่ที่ถนนราชดำเนิน เขตพระนคร และถนนแจ้งวัฒนะ ช่วงหน้าศูนย์ราชการฯ เขตหลักสี่ ส่วน นปช. ให้อยู่ที่ถนนอักษะ เขตทวีวัฒนา
09:48 น. - กอ.รส. ออกคำสั่งฉบับที่ 3 ห้ามสื่อข่าวที่กระทบต่อการรักษาความสงบ
10:36 น. กอ.รส. ออกคำสั่งฉบับที่ 6 สั่งให้โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ระงับการออกอากาศจำนวน 10 ช่อง รวมถึงวิทยุชุมชนที่ไม่ได้รับอนุญาต
11:06 น. กอ.รส. ออกคำสั่งฉบับที่ 5 แต่งตั้งคณะที่ปรึกษา กอ.รส.
12:40 น. กอ.รส. ออกคำสั่งฉบับที่ 4 เชิญบุคคลสำคัญร่วมประชุม แก้ปัญหาความไม่สงบ
14:00 น. กอ.รส. เริ่มประชุมตามคำสั่งฉบับที่ 4 ที่สโมสรทหารบก สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ปฏิเสธไม่เข้าร่วมประชุม
19:34 น. กอ.รส. ออกคำสั่งฉบับที่ 8 ขอความร่วมมือสื่อสังคมออนไลน์ ระงับส่งข้อความปลุกระดม สร้างความรุนแรง ไม่เคารพกฎหมาย
19:45 น. กอ.รส. ออกคำสั่งฉบับที่ 7 สั่งให้โทรทัศน์ดาวเทียม ระงับการออกอากาศเพิ่มเติมอีก 4 ช่อง
20:09 น. กอ.รส. ออกคำสั่งฉบับที่ 9 สั่งห้ามสื่อทุกแขนง เชิญผู้ไม่มีตำแหน่งราชการ แสดงความเห็นก่อความขัดแย้ง พร้อมสั่งให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัด เข้าระงับการชุมนุมต่อต้าน การปฏิบัติงานของ กอ.รส.
20:49 น. กอ.รส. ออกคำสั่งฉบับที่ 10 สั่งห้ามข้าราชการ-เจ้าหน้าที่พลเรือน-ประชาชน พกพา-ใช้อาวุธสงครามและวัตถุระเบิด เว้นทหารตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยตามคำสั่ง
21:04 น. พันเอกวินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะ โฆษก กอ.รส. ชี้แจงขั้นตอนการประกาศกฎอัยการศึก ว่าเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และ กอ.รส. ออกคำสั่งฉบับที่ 12 ให้ตำรวจ, เจ้าหน้าที่พลเรือน, หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ
21 พฤษภาคม
ในวันที่ 21 พฤษภาคม 2557 กอ.รส. ไม่ได้ออกประกาศเพิ่มเติม และกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งสองกลุ่มยังคงดำเนินกิจกรรมของตัวเองตามปกติ โดยเหตุการณ์สำคัญมีเพียงแค่การตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจพิจารณาอินเทอร์เน็ตและสั่งให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตรายงานต่อ กอ.รส. เพื่อควบคุมเนื้อหาออนไลน์เท่านั้น
และในช่วงบ่ายก็ได้มีประกาศ กอ.รส. ฉบับที่ 7/2557 เพื่อเรียกตัวแทนจาก 7 ฝ่ายเข้าร่วมประชุมที่สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดี-รังสิต โดยห้ามมิให้มีผู้ติดตามเดินทางมาด้วย โดยรายนามผู้ที่ถูกเรียนเชิญมีดังต่อไปนี้
ผู้แทนรัฐบาล ประกอบด้วย รักษาการณ์นายกรัฐมนตรี และผู้ติดตาม 4 ท่าน ผู้แทนวุฒิสภา ประกอบด้วย รองประธานวุฒิสภาท่านที่ 1 พร้อมคณะอีก 4 ท่าน คณะกรรมการการเลือกตั้ง ทั้ง 5 ท่าน ผู้แทนพรรคเพื่อไทย
ประกอบด้วย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรค และผู้ติดตาม 4 ท่าน ผู้แทนพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และผู้ติดตาม 4 ท่าน ผู้แทนคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประกอบด้วย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. พร้อมคณะอีก 4 ท่าน
ผู้แทนแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ประกอบด้วย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. และคณะอีก 4 ท่าน โดยการประชุมเป็นไปอย่างเคร่งเครียดตั้งแต่เวลา 13.30 น. จน พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจให้มาประชุมกันใหม่ในวันพรุ่งนี้เวลา 14.00 น.เพื่อหาทางออกของประเทศร่วมกัน ภายหลังรัฐมนตรีรักษาการได้ออกมาเผยว่าท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ในที่ประชุมดูแปลกไป แต่ตนเชื่อว่าพล.อ.ประยุทธคงไม่คิดจะทำการรัฐประหารแน่นอน
22 พฤษภาคม
14:00 น. - ประชุมร่วม 7 ฝ่าย เพื่อหาทางออกของประเทศครั้งที่ 2 โดยมี ผบ.ทบ. เป็นประธานในที่ประชุมระหว่างการประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ได้เปิดโอกาสให้แต่ละฝ่ายได้เสนอแนวทางที่เห็นว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดของประเทศ โดยได้สอบถาม นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าคณะฝ่ายรัฐบาล ว่าตกลงรัฐบาลยืนยันไม่ลาออกทั้งรายบุคคลและทั้งคณะใช้หรือไม่ ซึ่งนายชัยเกษมระบุว่านาทีนี้ไม่ลาออกและต้องการดำเนินการต่อจนกว่าจะครบวาระตามกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์ จึงตอบกลับว่าจะยึดอำนาจการปกครอง และเมื่อสิ้นสุดเสียง เจ้าหน้าที่ทหารกว่าหลายร้อยนายได้เข้ามาชาร์จผู้ประชุมทั้ง 7 ฝ่ายและพาขึ้นรถออกไปทันที โดยไม่ทราบจุดหมายปลายทาง
16:30 น. (ประกาศจริง เวลา 17.00 น.) - พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศตั้ง "คณะรักษาความสงบแห่งชาติ" (อังกฤษ: National Peace and Order Maintaining Council อักษรย่อ: คสช.) เข้ามายึดอำนาจรัฐบาลรักษาการณ์ในทันที รวมถึงให้กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) สิ้นสุดอำนาจทันทีเช่นกัน แต่ทั้งนี้คำสั่งต่างๆ ยังคงมีผลต่อเนื่องอยู่
18:00 น. - คณะรักษาความสงบแห่งชาติประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักรอีกครั้ง
18:20 น. - คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ออกประกาศฉบับที่ 3 ห้ามมิให้ประชาชนออกจากเคหะสถานตั้งแต่เวลา
22.00 น.-05.00 น. ทั่วราชอาณาจักร เว้นแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ จากกรณีนี้สถานที่สำคัญหลายแห่งทั่วประเทศประกาศปิดทำการตั้งแต่เวลา 20.00 น. เป็นต้นไป และระบบขนส่งมวลชนต่างๆ คือ รถไฟฟ้าบีทีเอส ประกาศปิดทำการตั้งแต่เวลา 21.00 น. โดยจะเป็นรถเที่ยวสุดท้ายที่ออกจากสถานีหมอชิตและสถานีแบริ่ง รถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล ประกาศปิดทำการตั้งแต่เวลา 21.00 น. โดยเป็นรถเที่ยวสุดท้ายที่ออกจากสถานีหัวลำโพง และสถานีบางซื่อ และรถไฟฟ้าเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประกาศปิดทำการตั้งแต่เวลา 21.00 น. โดยเป็นรถเที่ยวสุดท้ายที่ออกจากสถานีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสถานีพญาไท
18:30 น. - คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ออกประกาศฉบับที่ 4 บังคับให้สื่อวิทยุ โทรทัศน์ และโทรทัศน์ดาวเทียมทุกสถานี งดออกรายการตามปกติ และให้ใช้สัญญาณของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกออกอากาศไปจนกว่าจะได้รับคำสั่งเปลี่ยนแปลง
19:00 น. - คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออกประกาศขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ชุมนุมกลับสู่ภูมิลำเนาของตนตามเดิม โดยทางกองทัพบกได้จัดขบวนรถจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพเพื่ออำนวยความสะดวก และได้ออกคำสั่งให้ทหารที่รับผิดชอบในพื้นที่ช่วยจัดการบริหารให้ประชาชนสามารถเดินทางกลับได้อย่างปลอดภัย
19:10 น. - คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออกประกาศฉบับที่ 5 โดยมีเนื้อความดังนี้
ให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 สิ้นสุดอำนาจลงชั่วคราวทุกหัวข้อ ยกเว้นหมวดที่สอง (พระมหากษัตริย์) หมวดหน้าที่วุฒิสภา และองค์กรอิสระให้มีอำนาจอยู่เช่นเดิมให้ สมาชิกวุฒิสภา ยังคงดำรงตำแหน่งตามปกติแต่นับจำนวนสมาชิกใหม่ตามสมาชิกที่เหลืออยู่ในวุฒิสภาในขณะที่ออกคำสั่งฉบับนี้ ให้คณะรัฐมนตรีรักษาการที่ดำรงตำแหน่งอยู่ทุกตำแหน่งหมดอำนาจตั้งแต่ประกาศฉบับนี้
ยกเลิกการพิจารณาคดีที่เกิดขึ้นช่วงนี้ทั้งหมดให้องค์กรอิสระ และองค์กรอื่นๆ ที่ถูกจัดตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ดำเนินงานตามปกติ
19:19 น. - คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออกประกาศฉบับที่ 6 โดยให้แต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้า คสช. พล.อ. ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร เป็นรองหัวหน้า คสช. พล.ร.อ. ณรงค์ พิพัฒนาศัย เป็นรองหัวหน้า คสช. พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง เป็นรองหัวหน้า คสช. พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว เป็นรองหัวหน้า คสช. และ พล.ต. อุดมเดช สีตบุตร เป็นเลขาธิการ
19:42 น. - คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออกประกาศฉบับที่ 7 สั่งห้ามชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน20:55 น. - คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้ออกประกาศฉบับที่ 8 โดยให้ยกเว้นข้อห้ามการออกจากเคหสถานยามค่ำคืนตามประกาศที่ 3/2557 เพื่อบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้นโดยให้ยกเว้นกับกลุ่มบุคคลดังต่อไปนี้ กลุ่มบุคคลที่เดินทางเข้า-ออกประเทศ กลุ่มบุคคลที่ต้องประกอบอาชีพแบบผลัดเวลา (เข้ากะ) เช่น โรงงาน โรงพยาบาล ธุรกิจการบิน กลุ่มบุคคลที่ต้องเดินทางเพื่อขนส่งสินค้าที่มีอายุจำกัด หรือสินค้าเย็น กลุ่มบุคคลที่มีกิจธุระจำเป็น เช่น ผู้ป่วยที่ต้องเดินทางไปโรงพยาบาล ผู้ปฏิบัติการที่เกี่ยวกับมนุษยธรรม สำหรับกลุ่มบุคคลที่มีกิจธุระนอกเหนือจากข้างต้น ให้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ก่อนออกเดินทาง
20.30 น. 7-11โพสต์ประกาศผ่านเฟซบุ๊ก จะปิดให้บริการ
22.00-05.00น.ตามการประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศ ฉบับที่ 3 ห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา 22.00-05.00น.
21.06 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกประกาศฉบับที่ 9/2557 ให้สถานศึกษา ทั้งในส่วนของรัฐและเอกชน หยุดการเรียนการสอน 23 - 25 พฤษภาคม 2557
21.40 น. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า สถานีบริการน้ำมัน ปตท.ปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 22:00น. และเปิดให้บริการตั้งแต่ 05:00น. มีผลตั้งแต่วันนี้จนกว่าจะมีการแจ้งเปลี่ยนแปลง
21.55 น. คสช.ขึ้นตัววิ่งในหน้าจอโทรทัศน์ ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลบนสื่อออนไลน์ ที่มีการระบุว่าจะมีการปิดสัญญาณอินเตอร์เนต ปิดไลน์ ปิดยูทูป ปิดโซเชียลมีเดีย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ
กองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ


ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ

วันอาทิตย์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Advanc&Dtac Charts


update #1  #18/5/2014
update #2  #21/5/2014

Advanc Charts










Dtac Charts











มีอัพเดท เพิ่มเติม ประมาณช่วงสิ้นเดือน พค 2014
(รวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมก่อน)

วันเสาร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

หุ้น Big cap ของตลาด 10ตัว มีพอไปต่อไหวกี่ตัว #16/5/2014 Friday

หุ้น Big cap ของตลาด 10ตัว มีพอไปต่อไหวกี่ตัว #16/5/2014 Friday

Week
























มองปู่วีคที่ผ่านมา 16/5/2014



มองปู่ตามเทรนด์
วีคที่ผ่านมา  (16/5/2014) ปู่ทำแท่งเขียวก็จริง แต่ วอลุ่มรวมทั้งวีคก็ยังดูหมิ่นเหม่เหลือเกิน แถมยังทำ Hi ต่ำกว่า Hi ของวีคก่อนหน้า หากมองตามเทรนด์ ก็น่าจะบอกว่า เทรนด์ยังไม่แข็งแรงพอที่จะยืนยันว่ากลับเป็นขาขึ้น และยิ่งเจอแรงขายของหรั่งเมื่อวันศุกร์ คู่กับข่าวการเมืองด้วยแล้ว การดูตามเทรนด์ว่าจะกลับเป็นขาขึ้นโอกาสเหมือนจะไม่มาก

มองปู่ตามเวฟ
มองปู่ตามหลักเวฟดูบ้าง (อันนี้ต้องบอกว่าเป็นการมุมมองส่วนตัว เพราะ แต่ละคนนับเวฟไม่ค่อยจะเหมือนกัน)  มองว่าปู่จบซับเวฟ A ไปแล้ว และกำลังทำ ซับเวฟ B ซึ่งสอดคล้องกับการมองแบบเทรนด์ คือ เทรนด์ยังไม่กลับเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน (มีโอกาสลงมาได้มาก) ซับเวฟ B คือ หลังจากจบแล้วก็จะลงเป็น ซับเวฟ C ทั้งนี้การปิดแท่งวีคศุกร์ที่ 23 น่าจะทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น

อนึ่ง เท่าที่สังเกต จุดกลับตัวของแต่ละเวฟนั้น หากมีรายย่อยจำนวนมาก เชื่อว่าที่จุดจะกลับตัว จุดนั้นมักจะเคลื่อน (เหมือนดักกินรายย่อย ไม่ว่าจะจาก tfex หรือ หุ้น )

วันศุกร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

SPCG

SPCG

หากดูแค่ว่า มีรฟฟ ทั้งหมด 36 โรง 1Q57  สามารถขายไฟได้แล้ว 27โรง มีรายได้ ใน 1Q57  838ลบ กำไร 271ลบ
หากเปิดครบ รายได้น่าจะไปถึง 4680 ลบ หากมี NPM 30% ก็จะได้กำไรปีละ 1404 ลบ
หรือคิดเป็น eps ที่ 1.67 บ เท่ากับที่ราคา 21.1 พีอีจะเหลือแค่ 12.6 เท่า ดูแล้วจะน่าสนใจมากกกก ใช่ไหมครับ

กรณี BEST CASE
คำนวนตามสัญญาที่ได้มาเลยครับ ได้ adder 8 บ เป็นเวลา 10ปี
130 ลบ ต่อโรง ต่อปี 36 โรง = 4680 ลบ ต่อปี สัญญา 10ปี และดูจาก NPM ล่าสุด ที่ 32%
ดบจ่ายประมาณ 200 ลบ ค่าเสื่อม 100 ลบ ต่อไตรมาส NPM 32%ที่ทำได่้ใน 1Q57 น่าจะมากเกินไป
เพราะปีที่แล้วได้ ประมาณ 20% เท่านั้น) รฟฟ ที่มีการรับประกันแผงแล้ว
ดังนั้น WC น่าจะไม่มีความแตกต่างกันในแต่ละปี ค่าเสื่อมบวก ดบ จ่าย บนสมมติฐานปีละ 1300 ลบ ห
ลังจาก discount แล้ว (หนี้หักกับ fix asset เพราะ สมมติว่าครบ 10ปีแล้วหยุด เลยประมาณแบบคร่าวๆ)
ให้ wacc ที่ 9% สรุปคือ จะได้ มูลค่าที่ 20 บ ต่อหุ้น ครับ
หรือหากให้ wacc ที่ 6.5% ก็จะได้ มูลค่าที่ 22.78 บ ต่อหุ้น
ส่วนเรื่องที่หลังจาก 10ปีทำขายไฟได้ แต่ก็ไม่มี adder รายได้ค่าไฟจะเหลือเท่าไร
ตอนนี้ รายได้จาก adder เกินกว่า 50% ของรายได้รวม
สังเกตคือ การคิดวิธีนี้คือ กระแสเงินสดบวกกลับ ด้วยดบและเงินต้นของเงินกู้
แสดงว่าตามสมมติฐานนี้ครบ 10ปีแล้ว หนี้ยังอยู่ครบนะครับ ไม่ลดลง
เรื่อง ที่ดินนั้นดูตามรูป มูลค่าทั้งหมดรวมของ บ.ย่อย (คิดเต็ม 100% ยังไม่ได้หักตามสัดส่วนที่ บ.ถือ ในบางบ.ที่ถือไม่เต็ม 100% )
รวมมูลค่า 3,758 ลบ เท่านั้นเอง ในขณะที่ ทรัพย์สินรวมทั้ง บ. 22822 ลบ
ที่ดินคิดเป็นเพียง 16% ของทรัพย์สินรวมเท่านั้นเอง ไม่ได้มากมายอย่างที่เข้าใจกันเลย
อนึ่ง ที่ดินต่ำกว่าถนนมาก ค่าถมที่น่าจะพอๆกับราคาที่ดิน ดังนั้น อนาคตอีก 10 ปี มูลค่า ไม่น่าจะขึ้นได้สักเท่าไร เป็นเรื่องปกติที่การทำโซล่าร์ฟาร์ม จะหาที่ดินราคาถูก โดยมันมีเหตุผลบางอย่างให้ถูก ดังนั้นการจะหวังเรื่องราคาที่ดินคงไม่เท่าไร
ที่คำนวนไปเป็นกรณี best case ยังไม่คิดเรื่องที่ ไปถือหุ้น ใน บ.ย่อยบางแห่ง ไม่เต็ม 100%
ยังไม่คิดเผื่อว่า หากแต่ละโรงทำรายได้เฉลี่ยรวมแล้วไม่ถึง 130 ลบ ต่อโรงต่อปี
ยังไม่รวมกรณีทำ NPM ได้ไม่ถึงปีละ 30% ตามการคำนวนนะครับ
หากคำนวนเป็น Normal จะเหลือ มูลค่าเท่าไร
อนึ่ง ค่าเสื่อมที่ใช้คำนวนนั้น บ.หักที่ปี อย่าลืมลองดูจุดนี้นะครับ
ว่าใช้เวลาในการหักมากกว่า สัญญา adder ไหม เพราะเป็นตัวไปช่วยทำให้ NPM ดูสูงผิดว่าปกติครับ

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

กองทุนอสังหา แตกต่างกับกอง REIT อย่างไร

กองทุนอสังหา แตกต่างกับกอง REIT อย่างไร

ข้อพิจารณาก่อนการลงทุน
ทั้ง REIT และ Property fund ต่างมีวัตถุประสงค์ลงทุนเพื่อหาผลประโยชน์ในอสังหาริมทรัพย์เช่นเดียวกัน  แต่ REIT มีการจัดการการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ การกำากับดูแล และสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างจาก
Property fund บางประการ ดังนี้ นักลงทุนกลุ่มแรกที่ลงทุนใน REIT คือผู้ซื้อหน่วยทรัสต์ตอนเสนอขายครั้งแรก (Initial Public Offering : IPO)
โดยสำานักงาน ก.ล.ต. อนุญาตให้นักลงทุนรายใดรายหนึ่งหรือกลุ่มบุคคลเดียวกันถือหน่วยลงทุนได้
ไม่เกินร้อยละ 50 ของจำานวนหน่วยทรัสต์ทั้งหมดและแต่ละชนิด (tranche) (ถ้ามี)
หลังจากผ่านช่วง IPO ไปแล้ว ผู้ลงทุนต้องเข้าไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจะต้องเปิดบัญชีซื้อขาย หลักทรัพย์กับบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ เช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้น

    ทั้งนี้ REIT จะซื้อขายภายใต้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์

1. อสังหาริมทรัพย์ที่ REIT ลงทุน ผู้ลงทุนควรทำาความเข้าใจก่อนว่าอสังหาริมทรัพย์ที่ REIT ลงทุน
นั้นเป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภทใด ซึ่งมีผลต่อผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับด้วย เช่น REIT อาจลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ หรืออสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ระหว่างพัฒนา ความสามารถในการชำาระ
ค่าเช่าของผู้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อความสมำเสมอของรายได้จากอสังหาริมทรัพย์
นั้น ๆ

2. การแบ่งชนิดของหน่วยทรัสต์ แต่ละ REIT สามารถแบ่งชนิดของหน่วยทรัสต์เพื่อเสนอขายให้
ผู้ลงทุนแต่ละประเภทได้ ผู้ลงทุนควรทำาความเข้าใจกับสิทธิและข้อจำากัดของหน่วยทรัสต์แต่ละ
ประเภทที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนด้วย

3. สภาพคล่องของการซื้อขายและราคาหน่วยทรัสต์ที่อาจลดลง เนื่องจาก REIT ต้องจดทะเบียน
ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงในด้านสภาพคล่องในการซื้อขายหน่วยทรัสต์ นอกจากนี้
ราคาซื้อขายหน่วยทรัสต์เป็นราคาตามกลไกตลาดซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ซื้อและผู้ขาย
ซึ่งอาจมีปัจจัยหลายด้านเข้ามากระทบ ตั้งแต่เรื่องภาวะเศรษฐกิจ การเมือง หรือแนวโน้มของธุรกิจ
อสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนการคาดการณ์ผลการดำาเนินงานในอนาคตของ REIT

     ดังนั้น ผู้ลงทุนต้องประเมินตนเองว่าเหมาะสมกับการลงทุนและความเสี่ยงระดับใด และทำาความเข้าใจลักษณะของ REIT ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน โดยต้องศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนอย่างละเอียดเกี่ยวกับนโยบายการลงทุน รายละเอียดของอสังหาริมทรัพย์ที่ลงทุน ความเสี่ยงจากการกู้ยืมเงิน ปัจจัยความเสี่ยง ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูว่าผลตอบแทนของ REIT ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไร นโยบายเงินปันผลค่าธรรมเนียมและ ค่าใช้จ่ายต่างๆ และควรสอบถามข้อมูลจากตัวแทนขายก่อนตัดสินใจลงทุน






ที่มา SET
  สังเกต การกู้ยืม กองอสังหา จะกู้ได้ไม่เกิน 10% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV)
ในขณะที่กอง REIT จะกู้ได้มากกว่า โดยกู้ได้ ไม่เกิน 35% ของทรัพย์สินรวม และได้
ไม่เกิน 60% กรณีที่ได้รับ Credit Rating ระดับ Investment Grade  ทำให้กอง REIT มีอิสระในการลงทุนมากขึ้น และโอกาสในการรบกวน ผถห โดยการเพิ่มทุน น้อยลง

วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เหตุผลที่ ผม "คาด" ว่า set จะไม่ทำ นิวโลว์

10/5/2014

เหตุผลที่ ผม "คาด" ว่า set จะไม่ทำ นิวโลว์ (ไม่ต่ำกว่า 1205) อยู่ในรูปนี้ทั้งหมด
(low เดิม 1205) อีกสักครู่จะลงรูปถัดไป ว่าหาก set ไม่ทำ New low แล้ว set ทำไมถึงลง และควรลงไปได้แค่ไหน 






ว่ากันที่ภาพใหญ่ก่อนนะครับ ในเมื่อ set ไม่ทำนิวโลว์แล้ว แสดงว่า set กำลังทำ เวฟ 5 ซึ่งโอกาสในการจบเวฟ 5 เป็นไปได้ สามจุด ตามเส้น เขียว เหลือ ชมพู ซึ่งตอนนี้ยัง มองไม่ออก ว่าจะเป็นเส้นไหนกันแน่ แต่แน่นอนการขึ้นทำเวฟ 5 ไม่ได้ขึ้นขาเดียว จะเป็นการ ขึ้น ลง ทำเวฟย่อยๆ ซึ่งเวฟที่รองลงมาในเวฟ 5 นี้ รอบนี้ผมมองเป็น 5 เวฟรอง (มีเหตุผล แต่ขอไม่พูดถึง) และเรากำลังอยู่ระหว่างทางของเวฟรองเวฟที่ 1 เดวจะเอาภาพให้ดูต่อ





 จะขยายภาพนี้นะครับ



เมื่อขยายภาพ จะเห็นการทำเวฟรอง เป็น 1 2 3 และที่เรากำลังอยู่คือจุดเริ่มต้นของ เวฟ 4 



 ซึ่งเวฟ 4 สามารถลงได้ลึกสุด "คาด" ว่าจะเป็นบริเวณจุดเริ่มต้นของเส้น ฟ้า เหลือ เขียว ( แต่ไม่จำเป็นต้องลงมาถึงนะครับ ) เดวจะขยายเวฟ 3 ให้ดูครับเป็นตัวยืนยันว่ากำลังจะเริ่มทำเวฟ 4     ทั้งหมดนี่คือ ส่วนย่อยของเวฟ 1เท่านั้นเองนะครับ (เส้นสีแดง)



รูปนี้คือภาพขยายของเวฟ 3 จะเห็นว่ายังมีแบ่งเป็นเวฟย่อย 1-5 ในเวฟ 3 อีกที

 รูปสุดท้ายข้างบนนี้ จะเห็นได้ชัดว่า จบเวฟ 5 ย่อยแล้ว และกำลังจะทำ A B C เป็นเหตุผลในการลดพอร์ตของผม ในช่วงเวลาที่ผ่านมา จริงๆมีรายละเอียดปลีกย่อยในการมองมากกว่านี้เยอะครับ แต่เท่านี้ละกันครับ 

สรุป ทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวที่ผมมอง set เท่านั้นนะครับ 
เแค่เอามุมมองส่วนตัว ที่ "อาจ" จะผิดก็ได้ มาแชร์กันเท่านั้นเองครับ


หากดูรูปแล้วมองย้อนกลับไปที่รูปแรกอีกครั้ง จะเห็นว่า ที่เราดีใจ เสียใจ ร้องโอ๊กอ๊าก กันนั้น แท้จริงเราเป็นเพียงส่วนเล็กๆของเวฟใหญ่เท่านั้นเอง หุ้นขึ้นลง 10 จุด 20จุด 30 จุด เราก็ดีใจเสียใจกันได้ ทั้งๆที่ความจริงแล้วระยะยาวนั้น มันเยอะกว่านั้นมากมาย เราเหมือนมดตัวเล็กๆบนคลื่นจริงๆ










วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

GMS Exchanges


รู้จักกับตลาดหลักทรัพย์ใน GMS








ตลาดหลักทรัพย์ลาว (LSX)ตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (CSX) ตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ (HOSE)ตลาดหลักทรัพย์ฮานอย (HNX)



ตลาดหลักทรัพย์ลาว (LSX) http://www.lsx.com.la
รู้จักกับ
ตลาดหลักทรัพย์ลาว
  • ตลาดหลักทรัพย์ลาวจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ภายใต้สัญญาร่วมทุนระหว่าง ธนาคารแห่ง สปป. ลาว 51% และ ตลาดหลักทรัพย์เกาหลี 49%
  • ตลาดหลักทรัพย์ลาวนับเป็นตลาดทุนแห่งแรกที่เกิดขึ้นใน สปป. ลาว เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดหาแหล่งเงินทุนระยะยาวสำหรับบริษัทที่มีความต้องการในการพัฒนาและขยายกิจการด้านการผลิตและบริการ
หน่วยงานกำกับดูแลLao Securities Commission Office (LSCO)
สินค้าและบริการหุ้น
ดัชนีLSX Composite Index
จำนวนบริษัท
จดทะเบียน
3 บริษัท (ข้อมูล ณ 31 ธันวาคม 2556)
  1. EDL-Generation Public Company [EDL-Gen]
  2. Banque pour le Commerce Exterieur Lao Public (BCEL)
  3. LAO World Public Company (LWPC)
ระยะเวลาซื้อขายเวลา 8.30 น. ถึง 11.30 น. โดยระบบจะเปิดให้ทำการซื้อขายหลักทรัพย์ 6 ครั้งต่อวัน (ทุกๆ ครึ่งชั่วโมงระหว่างเวลาเปิดและปิดการซื้อขายข้างต้น)
บริษัทสมาชิก
3 บริษัท
  1. BCEL-KT Securities Company Limited
  2. Lanexang Securities Public Company
  3. Lao-China Securities Company Limited
การชำระราคาT+2
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์Lao PDR Securities Depository Center (LSDC)
ข้อมูลสำหรับ
นักลงทุนต่างชาติ
ภาษีอากรของนักลงทุนต่างชาติ
นักลงทุนบุคคล
กำไรจากการขายหลักทรัพย์: ไม่มีภาระภาษีจากกำไรที่เกิดจากการขายหลักทรัพย์
เงินได้จากเงินปันผล: ได้รับยกเว้นภาษี
นิติบุคคล
กำไรจากการขายหลักทรัพย: ไม่มีภาระภาษีจากกำไรที่เกิดจากการขายหลักทรัพย์
เงินได้จากเงินปันผล: ได้รับยกเว้นภาษี
สนใจลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ลาวผ่านบริษัทสมาชิกไทย
 
บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด
ฝ่ายค้าหลักทรัพย์ต่างประเทศ
โทรศัพท์ : +66 2 695 5959-60 | โทรสาร : +66 2 695 5969
อีเมล์ : Z-Inter@ktzmico.com
 
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)  
ฝ่ายธุรกิจสถาบันและการตลาดต่างประเทศ
โทรศัพท์:  +66 2 625 2477-82
อีเมล์: gt@fnsyrus.com
 
บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน)
ฝ่ายบริการการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ
โทรศัพท์ : +66 2 287 6631-3, +66 2 287 6662
อีเมล์ : overseasinvestment.cns@th.nomura.com

ตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา (CSX) http://www.csx.com.kh
รู้จักกับตลาดหลักทรัพย์กัมพูชาตลาดหลักทรัพย์กัมพูชาเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างรัฐบาลกัมพูชาและตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ ซึ่งถือหุ้นร้อยละ 55 และ 45 ตามลำดับ เริ่มเปิดดำเนินการซื้อขายหลักทรัพย์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 เมษายน 2555
หน่วยงานกำกับดูแล
สินค้าและบริการหุ้น
ดัชนีCSX  Index
จำนวนบริษัท
จดทะเบียน
1 บริษัท
  • Phnom  Penh Water Supply Authority: PPWSA
ระยะเวลาซื้อขายเวลา 8.30  - 11.30 น. โดยระบบจะเปิดให้ทำการซื้อขายหลักทรัพย์ 6 ครั้งต่อวัน (ทุกๆ ครึ่งชั่วโมงในระหว่างเวลาเปิดและปิดการซื้อขายข้างต้น)
บริษัทสมาชิก
11 บริษัท (ข้อมูล ณ มีนาคม 2557)
รายละเอียดเพิ่มเติม
การชำระราคาT+2
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์CSX Securities Depository Center
ข้อมูลสำหรับ
นักลงทุนต่างชาติ
ภาษีอากรของนักลงทุนต่างชาติ
นักลงทุนบุคคล
กำไรจากการขายหลักทรัพย์: ไม่มีภาระภาษีจากกำไรที่เกิดจากการขายหลักทรัพย์
เงินได้จากเงินปันผล: 14% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย แต่ได้รับส่วนลดทางภาษีเหลือ 7% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เป็นเวลา 3 ปีนับตั้งแต่เริ่มเปิดการซื้อขาย (ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2555 - 17 เมษายน 2558)
นิติบุคคล
กำไรจากการขายหลักทรัพย์: รวมคำนวณเป็นเงินได้พึงเสียภาษี โดยคิดในอัตรา 20% ของกำไรที่ได้รับ ทั้งนี้ มิได้แยกเป็นประเภทภาษีจากกำไรในการขายหลักทรัพย์
เงินได้จากเงินปันผล: 14% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย แต่ได้รับส่วนลดทางภาษีเหลือ 7% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เป็นเวลา 3 ปีนับตั้งแต่เริ่มเปิดการซื้อขาย (ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2555 - 17 เมษายน 2558)
สนใจลงทุนในตลาดหลักทรัพย์กัมพูชาผ่านบริษัทสมาชิกไทย
 บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)  
ฝ่ายธุรกิจสถาบันและการตลาดต่างประเทศ
โทรศัพท์:  +66 2 625 2477-82
อีเมล์: gt@fnsyrus.com
 บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)ฝ่ายการลงทุนหลักทรัพย์ต่างประเทศและซื้อขายตราสารหนี้
โทรศัพท์ : +66 2 217 8780-1, +66 2 217 8698
อีเมล์ : globaltrading@thanachart.co.th

ตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์ (HOSE) http://www.hsx.vn
รู้จักกับตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์
  • ตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์เริ่มเปิดดําเนินการเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2543 นับเป็นตลาดหลักทรัพย์แห่งแรกและใหญ่ที่สุดของเวียดนาม เดิมใช้ชื่อว่า Ho Chi Minh City Securities Trading Center (HOSTC) และเปลี่ยนชื่อเป็น Hochiminh Stock Exchange (HOSE) เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2550
  • ตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์เปลี่ยนมาใช้ระบบซื้อขายด้วยคอมพิวเตอร์เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2550 และเริ่มให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านอินเตอร์เนทตั้งแต่ปี 2552
หน่วยงานกำกับดูแล
สินค้าและบริการหุ้น
ตราสารหนี้เอกชน
Fund Certificated
ดัชนีVN  Index
จำนวนบริษัท
จดทะเบียน
บริษัท 302, กองทุน 2, ตราสารหนี้ 38
(ข้อมูล ณ 18 เมษายน 2557)
ระยะเวลาซื้อขายทุกวันจันทร์ ถึง ศุกร์ ยกเว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 9.15 ถึง 15.00 น.
บริษัทสมาชิก
91 บริษัท (ข้อมูล ณ 18 เมษายน 2557)
รายละเอียดเพิ่มเติม
การชำระราคาT+3 สำหรับตราสารทุนและกองทุน
T+1 สำหรับตราสารหนี้
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์Vietnam Securities Depository (VSD)
ข้อมูลสำหรับ
นักลงทุนต่างชาติ
ภาษีอากรของนักลงทุนต่างชาติ
นักลงทุนบุคคล
กำไรจากการขายหลักทรัพย์ – 0.1%ของมูลค่าการซื้อขาย
เงินได้จากเงินปันผล – 5% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
นิติบุคคล
กำไรจากการขายหลักทรัพย์ – 0.1%ของมูลค่าการซื้อขาย
เงินได้จากเงินปันผล – ไม่มีภาระภาษีจากเงินได้จากเงินปันผล
การถือครองหลักทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาตินักลงทุนต่างชาติสามารถถือครองหลักทรัพย์ไม่เกิน 49% ยกเว้นธุรกิจธนาคารถือครองได้เพียง 30% และไม่เกิน 10% ต่อนักลงทุน

ตลาดหลักทรัพย์ฮานอย (HNX) http://hnx.vn
รู้จักกับตลาดหลักทรัพย์ฮานอย
ตลาดหลักทรัพย์ฮานอยเริ่มเปิดดําเนินการเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2548 เดิมใช้ชื่อว่า Hanoi Securities Trading Center (HOSTC) และเปลี่ยนชื่อเป็น Hanoi Stock Exchange (HNX) ในเดือนมกราคมปี 2552
หน่วยงานกำกับดูแล
สินค้าและบริการหุ้น
ดัชนีHNX Index
UPCOM Index
จำนวนบริษัท
จดทะเบียน
377 บริษัท (ข้อมูล ณ 18 เมษายน 2557)
ระยะเวลาซื้อขายทุกวันจันทร์ ถึง ศุกร์ ยกเว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 09.00 ถึง 15.00 น.
บริษัทสมาชิก
54 บริษัท ( ข้อมูล ณ 18 เมษายน 2557)
รายละเอียดเพิ่มเติม
การชำระราคาT+3 สำหรับตราสารทุนและกองทุน
T+1 สำหรับตราสารหนี้
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์Vietnam Securities Depository (VSD)
ข้อมูลสำหรับ
นักลงทุนต่างชาติ
ภาษีอากรของนักลงทุนต่างชาติ
นักลงทุนบุคคล
กำไรจากการขายหลักทรัพย์ – 0.1%ของมูลค่าการซื้อขาย
เงินได้จากเงินปันผล – 5% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย
นิติบุคคล
กำไรจากการขายหลักทรัพย์ – 0.1%ของมูลค่าการซื้อขาย
เงินได้จากเงินปันผล – ไม่มีภาระภาษีจากเงินได้จากเงินปันผล
การถือครองหลักทรัพย์ของนักลงทุนต่างชาตินักลงทุนต่างชาติสามารถถือครองหลักทรัพย์ไม่เกิน 49% ยกเว้นธุรกิจธนาคารถือครองได้เพียง 30% และไม่เกิน 10% ต่อนักลงทุน
สนใจลงทุนในตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินห์และตลาดหลักทรัพย์ฮานอยผ่านบริษัทสมาชิกไทย
 
บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด
ฝ่ายค้าหลักทรัพย์ต่างประเทศ
โทรศัพท์ : +66 2 695 5959-60 | โทรสาร : +66 2 695 5969
อีเมล์ : Z-Inter@ktzmico.com
 บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)  
ฝ่ายธุรกิจสถาบันและการตลาดต่างประเทศ
โทรศัพท์:  +66 2 625 2477-82
อีเมล์: gt@fnsyrus.com
 บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน)ฝ่ายการลงทุนหลักทรัพย์ต่างประเทศและซื้อขายตราสารหนี้
โทรศัพท์ : +66 2 217 8780-1, +66 2 217 8698
อีเมล์ : globaltrading@thanachart.co.th


รายชื่อสินค้าที่เชื่อมโยงกับการลงทุนใน GMS
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557
รายชื่อบริษัท/กองทุนประเภทสินค้าประเทศที่เข้าไปลงทุนใน GMS
CKP : บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน)Holding Companyประกอบธุรกิจที่ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า โดยมีบริษัท ไฟฟ้าน้ำงึม 2 จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้า พลังน้ำ (โครงการเขื่อนน้ำงึม 2) ใน สปป. ลาว เป็นบริษัทแกน
AMATAV : บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน)

สถานะ: Filing
Holding Companyประกอบธุรกิจการลงทุนในบริษัทที่พัฒนา และประกอบกิจการนิคมอุตสาหกรรม และกิจการที่เกี่ยวเนื่องในประเทศเวียดนาม
PMTA: บริษัท พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)

สถานะ: Filing
Holding Companyประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจหลักเกี่ยวกับธุรกิจในอุตสาหกรรมเคมีเพื่อการเกษตร และธุรกิจเช่าพื้นที่โรงงานเพื่อเก็บสินค้าในเวียดนาม
สนใจลงทุนในสินค้าที่เชื่อมโยงกับการลงทุนใน GMS
 
ติดต่อบริษัทสมาชิกในประเทศไทยได้ทุกบริษัทเพื่อเปิดบัญชี / หรือทำการซื้อขาย




                                                                                                    ข้อมูลจาก SET