27/5/2013
DTAC เหมือนวางตัวเองเป็นโอเปอเรเตอร์ราคาประหยัด มุ่งเน้นไปที่การรักษาสัดส่วนมาร์เกตแชร์ ไม่ต้องการให้เกิด war price จึงเน้นออกแพคเกจที่ราคาถูกกว่าในระดับนึง และใส่งบลงทุนน้อยกว่าเพื่อคุมต้นทุน คิวที่ผ่านมาการคุมต้นทุนของดีแทค ได้ผลดีเลยส่งต่อ ebitda เพิ่มได้สวยหรูใน 1Q56 แต่สงสัยจังเรื่องโปรแกรมที่ตัดจำหน่ายไป 500M ไปฟ้องคืนได้ไหม
ดีแทคมีคลื่น 1800 ที่มีแบนด์วิทธ์ถึง 50MHz แต่ใช้จริงเพียง 25MHz เมื่อนำมาทำไตรแบนด์ก็วางคลื่นนี้ไปที่ voice ซึ่ทำให้ใช้ประโยชน์ของแบนวิธที่กว้างไม่ได้ แต่เป็นเพราะคลื่นนี้ไม่เหมาะจะทำ 3G
คิวที่ผ่านมาARPUของดีแทคลดลง กลุ่มลูกค้าดีแทค เน้นไปที่ มัธยมปลายถึงคนทำงานวัยประมาณ 30 เพราะกลุ่มนี้ใช้ดาต้าค่อนข้างมาก ทำให้รายได้จากดาต้าของดีแทคเพิ่มขึ้นมากทีเดียว ประกอบกับช่วงที่ผ่านมา AIS มีปัญหาเรื่องแบนวิธ ไม่พอ มีอาการเสียงโทรไม่ชัด มีคลื่นแทรก โทรติดยาก เนื่องจากช่วงก่อนที่ดีแทคระบบล่มคนย้ายมามาก และตอนนั้นยังไม่ประมูล 3G 2100 ทำให้แบนด์วิธไม่เพียงพอ
คิวที่ผ่านมาเลยเป็นโอกาสของดีแทคด้วย ลูกค้าที่ได้ใช้ดีแทคโดยมากน่าจะติดใจราคาแพคเกจ ทำให้ย้ายกลับมา เอไอเอสยาก ais จะแก้เกมด้วยการจับลูกค้ากลุ่มบนแบบที่เคยทำ จึงต้องทุ่มการสร้าง Network ให้สมบูรณ์กว่า ส่วนด้านบริการ ก็เหนือกว่าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนลดต่างๆ ที่จอดรถ เซเรเนด
การเพิ่มฐานลูกค้าจองเอไอเอส จึงต้องใช้เวลาให้ลูกค้าได้ เห็นถึงระบบที่เหนือกว่า ครอบคลุมกว่า จึงทุ่มงบลงทุนมากกว่าเจ้าอื่น และเน้นย้ำ จากนี้ไปจะเพิ่ม สถานีฐาน 800 สถานีฐานทุกเดือน
ส่วนดีแทค ผบห บอกชัดเจนจะเลือกคุม คชจ เป็นหลัก โดยยอมจ่ายค่าโรมมิ่ง แทนการลงทุนหนักๆ โดยพิจรณาถึงความคุ้มค่า รวมถึงในอนาคตเลือกที่จะเช่า Nerwork มากกว่าที่จะสร้างเองแบบครอบคลุม คืออาจสร้างบางส่วนคู่ไปกับการเช่าเครือข่าย
การที่ดีแทคเลือกไปที่คุม คชจ มันมีจุดที่ทำได้จุดนึงเท่านั้น หลังจากนั้นในระยะยาว ไม่น่าจะสามารถคุมให้น้อยลงไปได้อีก
การใช้ไตรแบนด์ดีแทคเอาคลื่น 850MHz มาทำ 3G และ 2100 ทำ 3G และอาจเพิ่มเป็น 4G โดยสวิตอัติโนมัติจาก 850 ไป 2100 ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นใน 850 นั่นแปลว่า การใช้คลื่น 850 เป็นหลักจะส่งผลให้ ต้องเสียค่าส่วนแบ่งในอัตราเดิมที่ประมาณ 30% แต่หากสวิตมาที่ 2100 ดีแทคจะต้องเสียค่าโรมมิ่งมาก เพราะเครือข่าย 2100 ของตัวเองมีน้อย
จุดนี้ผบห คงพยายามคำนวนว่าอันไหนคุ้มกว่ากัน ระหว่างจ่ายส่วนแบ่ง 30% กับการเสียค่าโรมมิ่ง
และอันไหนคุ้มกว่ากันระหว่างการไม่เสียค่าโรมมิ่ง แต่ต้องเพิ่มงบลงทุนสร้างเครือข่ายเพิ่มเติมอีกมาก
ตรงนี้ ผบห บอกจะพยายามบาลานซ์
ค่าโรมมิ่ง เอไอเอสบอกไว้ที่นาทีละ 60 สต ในขณะที่ค่าโทรเฉลี่ยของแพคเกจใหม่นาทีละไม่ถึงบาท
สาเหตุหลักที่ทำให้ดีแทคต้องใช้ 850 เป็นคลื่นหลักใน 3G มาจากไม่ต้องการลงทุนหนัก
เพื่อคุมค่าเสื่อม-->คุม คชจ-->network ไม่ครอบคลุม ถ้าลูกค้า ใช้ 2100 ก็จะทำให้ดีแทคเสียค่าโรมมิ่งมาก จึงต้องนำ 850 มาเป็นคลื่นหลักในการทำ 3G แต่การใช้ 850 ก็ทำให้ต้องจ่ายค่าส่วนแบ่งตามเรทเดิมที่มากถึงประมาณ 30%
#เป็นเพียงบันทึก ของ นลท คนนึงเท่านั้น อาจมีไบแอสบ้าง ถูกบ้าง ผิดบ้าง การอ่านจึงควรใช้วิจรณญาณของผู้อ่านควบคู่กันไปด้วย
