วันศุกร์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2565

หลักคิด 02

การวางแผนสร้างพอร์ต ให้รวมการคำนวณถึงวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ๆของโลกแต่ละครั้งเข้าไว้ด้วย แล้วดูว่าแผนของนั้น สามารถช่วยให้เป็นผู้รอดได้หรือไม่

เหตุการณ์วิกฤติครั้งใหญ่ของโลกมักเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีใครคาดคิด และมันย่อมเกิดขึ้นอีกในอนาคตอย่างแน่นอน

(อย่าลืม คิดเผื่อสำหรับความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่จะมีมาในอนาคต)

**********

วางแผน "อยู่ให้รอด" เมื่อตลาดเป็นขาลง 
แล้วที่เหลือจะดีเอง

**********

ถ้าคุณไม่เคยผิดพลาด ถ้าคุณไม่เคยขาดทุน คุณจะเติบโต และประสบความสำเร็จได้อย่างไร

แต่ถ้าคุณผิดพลาดอย่างหนัก ขาดทุนอย่างมโหฬาร จนต้องออกจากตลาด แล้วคุณจะประสบความสำเร็จในการลงทุนได้อย่างไร

หกล้มแล้วลุกเดินต่อ แต่อย่าล้มจนเดินต่อไม่ได้ อย่าผิดพลาดครั้งใหญ่ คิดแผนการลงทุนที่ป้องกัน การเกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่

**********

ช่วงก่อนมีเพื่อนๆถาม ไปลงหุ้น ตปท ไหม เล่นหุ้นเวียดนามไหม เล่นหุ้นเทคไหม (Nasdaq) ?

- ไม่ได้เล่นหุ้น ตปท เลยครับ หากสนใจจริงๆ คงลงแค่ ETF หรือ DR  เท่านั้น (เฉพาะกรณี หาหุ้นไทยลงทุนตามหลักการของเราไม่ได้จริงๆ) 

ไม่แบ่งไปลง ตปท บางส่วนบางหรือคับ ทำไมอ่ะ ?

- ไม่แบ่งครับ เพราะถ้าจะแบ่งไปนิดหน่อย แสดงว่า ในไทยยังมีหุ้นให้เราลงทุนได้อยู่ 

เราเลือกโฟกัส ในหุ้นที่เราเข้าใจ ใกล้ชิด ติดตามได้ รู้ข่าวได้ไว และพอจะรู้แนวทางการบริหารของผู้บริหาร ดีกว่า ที่จะไปลงทุนในต่างประเทศ ที่ติดตามยาก ได้ข่าวช้ากว่าคน local ฟังอ่านภาษาต่างชาติแม้จะแปลออก แต่ก็ไม่เข้าใจถึงนัยยะแฝง ในการให้สัมภาษณ์ของผู้บริหาร รวมถึงไม่เข้าใจหลักเกณฑ์ หรือไม่รู้หลักเกณฑ์ในตลาดหลักทรัพย์ของต่างประเทศมากพอ ซึ่งล้วนแต่จะทำให้เกิดความเสี่ยงค่อนข้างมาก แล้วต้องลงทุนโดยการกระจายความเสี่ยงในบริษัทที่เราไม่ค่อยรู้ (ไม่อยากจะคิดไปเองว่ารู้จักบริษัทดีพอ เราคงไม่เก่งพอ) 

สรุป คือ เลือกลงทุน ในบริษัทที่เรารู้จักจริงๆ และวางการลงทุนให้อยู่ในจุดที่เราได้เปรียบ มากกว่าที่จะยอมเสียเปรียบ เพื่อแลกกับความตื่นตาตื่นใจ ในการเติบโตของ บ.ที่ห่างไกลและเราไม่รู้จักมากพอ

#เป็นหัวหมาดีกว่าเป็นหางมังกร

**********

เอาชนะตลาดได้ เท่ากับได้กำไรเป็นครั้งคราว  แต่ถ้าเอาชนะตนเองได้ จะสามารถทำซ้ำและเอาชนะตลาดได้เรื่อยๆ

**********

หากมี Mindset เป็นนักลงทุน จะเข้าใจว่าความมั่งคั่งที่แท้จริงนั้น เกิดจากการถือธุรกิจที่ดี ที่สร้างกระแสเงินสดไหลเข้าต่อเนื่อง บนระยะเวลาที่ยาวนาน 

ไม่มีเศรษฐีคนไหนขายธุรกิจแล้วถือแต่เงินสด แล้วเป็นเศรษฐีต่อได้นานๆ คนรวยทุกคนล้วนแต่ถือธุรกิจเป็นหลักทรัพย์ที่สำคัญต่อความมั่งคั่งทั้งสิ้น

ดังนั้นสำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้น การสร้างพอร์ตหุ้นระยะยาว คือการ สร้างพอร์ตธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจสร้างกระแสเงินสดไหลกลับเข้ามา

หากต้องการสร้างพอร์ตหุ้นระยะยาว การลงทุนในบริษัทที่มีผลประกอบการมั่นคงเติบโตไปเรื่อยๆ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในการสร้างพอร์ต 

ลองคิดดูมันจะดีแค่ไหน หากเราเป็นหุ้นส่วน ในธุรกิจต่างๆ ที่ดี ที่มั่นคง มีกำไรเติบโตต่อเนื่อง ในเกือบทุกบริษัทที่มีราคาเหมาะสมให้เราเป็นเจ้าของได้ 

หากซื้อหุ้น ที่เล่นตามรอบเศรษฐกิจ มันจะถือยาวต่อเนื่องไม่ได้ เมื่อเป็นรอบขาลง ก็จะต้องขายออก พอร์ตหุ้นที่จะสร้างก็ต้องมาเริ่มต้นใหม่ เอาเวลาที่จะจับจังหวะการขาย แล้วพอร์ตต้องกลับมาเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง เปลี่ยนมาเป็นใส่ใจในการซื้อบริษัทที่ดีที่มั่นคงเข้าพอร์ตเพิ่มเติม เพื่อความมั่งคั่งในระยะยาว จะดีกว่าไหม ?

แต่ทั้งนี้ก็แล้วแต่ Mindset แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคลเป็นหลัก 

การได้ซื้อๆขายๆ มันสร้างความตื่นเต้น มันสร้างความสนุก ความมันส์ 

แต่เราไม่ได้ลงทุนเพื่อเอาสนุก หรือเอาความตื่นเต้น เราลงทุนเพื่อสร้างความมั่งคั่งและอิสรภาพในระยะยาว ดังนั้นการสร้างพอร์ตระยะยาว และการเลือกซื้อหุ้นจึงควรสอดคล้อง กับการลงทุนระยะยาว เพื่อเป้าหมายระยะยาวด้วยเช่นกัน

**********

กำไรจากการลงทุนที่มีคุณภาพ 
ควรเป็นกำไร ที่ได้จากการลงทุน ที่สร้างความกังวลต่ำ มีเหตุผลอธิบายได้ ไม่กินเวลาด้านอื่นๆของชีวิต

**********

คนเราไม่ค่อยตระหนักถึงมูลค่า ของความเสียหายที่เราหลีกเลี่ยงได้  เรามักมองไปที่ค่าใช้จ่ายในการหลีกเลี่ยงความเสียหาย
**********

ทำงานของเราไป
คนเก่งไม่ต้องโอ้อวดด้วยคำพูด
ให้ผลงานมันโชว์ตัวมันเอง

**********

สิ่งสำคัญในการลงทุนไม่ได้อยู่ที่ว่าเรารู้มากแค่ไหนแต่อยู่ที่ว่า เรารู้จริงๆหรือเปล่าว่าตัวเองไม่รู้อะไรบ้าง

**********

คุณภาพของผู้บริหารส่งผลต่ออัตราผลตอบแทนของหุ้นเป็นอย่างมาก

**********

อย่าลืมที่จะตั้งคำถามว่า สถานะทางการเงินของผู้บริหาร จะเป็นไปในทิศทางเดียวกับสถานะทางการเงินของเรา ตลอดช่วงเวลาที่เราถือหุ้นของบริษัทนั้นอยู่หรือเปล่า

**********

เมื่อนักลงทุนเป็นเจ้าของธุรกิจ ผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของบริษัท ไม่ใช่ราคาที่ใครบางคนยินดีจ่ายเพื่อซื้อหุ้นของบริษัท

ดอกเบี้ยลดลงดีต่ออสังหา
ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นดีต่อกลุ่มแบงค์

งานของการกระจายความเสี่ยงคือการมองหาสินทรัพย์ซึ่งผลตอบแทนของพวกมันไม่มีความสัมพันธ์กัน หรือมีความสัมพันธ์ในทางตรงกันข้าม เช่น portfolio อันประกอบด้วยบริษัทผลิตร่มและผู้ผลิตโลชั่นกันแดดเป็นตัวอย่างของแนวคิดนี้

การซื้อบริษัทในราคาต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิหรือมูลค่าบนพื้นฐานของผลกำไร มากๆ เป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงต่ำอยู่แล้ว และการประเมินมูลค่าจากสินทรัพย์ และนำตัวเลขที่ได้ไปตรวจสอบการประเมินมูลค่าโดยพิจารณาศักยภาพการทำกำไร

รวมถึงการไม่ยอมจ่ายเงินซื้ออนาคตการเติบโตในราคาสูง (หรือไม่ยอมจ่ายเลย) จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปอีก

นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าจะเลือกหุ้น ซึ่งเขามีความเข้าใจ ชื่นชอบบริษัทที่ถูกประเมินค่าได้อย่างน่าเชื่อถือ มีตำแหน่งทางการแข่งขันที่มีเสถียรภาพมีประวัติผลกำไรที่สม่ำเสมอ และเป็นธุรกิจที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของเทคโนโลยีหรือรสนิยมของผู้บริโภค

หากกฎเกณฑ์เหล่านี้ทำให้เขาไม่สามารถซื้อหุ้นของบริษัทเทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว หรือหุ้นโตเร็วในอุตสาหกรรมอื่น มันเป็นข้อจำกัด ที่พวกเขาพร้อมจะยอมรับ

หากมีการคัดเลือกหุ้นมาเป็นอย่างดี ความผันผวนไม่ใช่ความเสี่ยง

บ.ที่มีโมเดลธุรกิจที่เรียบง่าย มีฐานลูกค้าจำนวนมากต่อเนื่อง และสามารถตั้งราคาพรีเมี่ยมให้กับสินค้าได้ จะซื้อ บ.เหล่านี้ที่ราคาเหมาะสมได้เมื่อ
1.เป็นตลาดหมี หรือปรับฐาน
2.เป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่หันไปไล่ล่าหุ้นเติบโตกลุ่มอื่น
3.บ.มีปัญหาเฉพาะตัวของ บ.เอง


อย่าเก็งกำไรกับข่าว แต่ให้เดิมพันกับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ จึงจะเป็นการลงทุนที่สมเหตุสมผล

เวลาตลาดหุ้นขึ้นทุกคนกำไรกันหมด
เวลาตลาดหุ้นลงคนเก่งจะรักษากำไรไว้ได้ 
ที่เหลือขาดทุนหนัก

หนึ่งในร้อยเราเรียกเปอร์เซ็นต์ 
หนึ่งในหมื่นเราเรียก basis Point

ชีวิตคนเราประกอบด้วยตัวเลือกที่ต้องตัดสินใจมากมาย ในแต่ละคนเลือกก็ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ดังนั้น คุณภาพชีวิตของเราก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพของการตัดสินใจที่เราเลือก

เราไม่ได้มีความสามารถในการตัดสินใจที่ดีได้ตั้งแต่เกิด แต่เราเรียนรู้มัน

ยิ่งเราเข้าใกล้เป้าหมาย เราก็จะยิ่งเจอกับอุปสรรค และจำนวนครั้งในการตัดสินใจมากยิ่งขึ้น

ตลาดหมีมักจะมาในตอนที่เรามีหุ้นเต็มมือ (ตอนที่เรามีความมั่นใจสุดขีด)

ยิ่งเราเจอปัญหา เราจะยิ่งเก่งขึ้น
ความเจ็บปวด จะทำให้เราแกร่งขึ้น

ความเจ็บปวดความทรมานคือสัญญาณบอกถึงขีดตำกัดของเรา ถ้าเราต้องการจะเก่งขึ้น แกร่งขึ้น เราต้องดันขีดจำกัดของเราออกไปอีก

ความเจ็บปวดทรมาน จากขีดจำกัด เราสามารถตอบสนองได้หลายวิธี สู้กับมัน หลบเลี่ยงมัน หรือ หาวิธีอยู่ร่วมกับมัน

การตัดสินใจที่ถูกต้อง ต้องอาศัยข้อเท็จจริง ดังนั้นเมื่อรับรู้ข้อมูล ก่อนจะตัดสินใจ อย่าลืม เอะใจ ถามตัวเองว่า มันจริงไหม

คนที่สนใจในการตัดสินใจบนความเป็นไปได้มากที่สุดเท่านั้น ถึงจะมั่นใจได้ว่า จะได้คำตอบที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด

คนเรามักจะพึงพอใจในผลลัพธ์ระยะสั้นจนทำให้ไม่สามารถไปถึงเป้าหมายระยะยาวได้

BPS คือ ชื่อย่อของ Basis Point เป็นหน่วยที่ใช้ในการบอกความเปลี่ยนแปลงของเปอร์เซ็นต์ในทางการเงินว่าเปลี่ยนแปลงไปกี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะพบได้บ่อยๆในข่าวเศรษฐกิจและการลงทุน ตัวอย่างเช่น ธนาคารกลางสหรัฐลดดอกเบี้ย 25 bps จาก 2.25% เหลือ 2% เป็นต้น
1BPS = 0.01%

Joe Mobile1:
พูดง่ายๆก็คือเราเชื่อว่าหากเราซื้อส่วนหนึ่งของบริษัทซึ่งมีปัจจัยพื้นฐานดีเยี่ยมในราคาต่ำกว่ามูลค่าของบริษัทต่อหุ้น สิ่งดีๆน่าจะเกิดขึ้นกับเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเราเป็นเจ้าของหุ้นประเภทที่ว่าเป็นกลุ่ม - วอร์เรนบัฟเฟตต์

ผู้จัดการกองทุนส่วนมากไม่ชอบที่จะตัดสินใจนอกกรอบ เพราะหากผลงานออกมาดีสิ่งที่เขาได้ก็แค่คำชมเชย แต่หากผลงานออกมาแย่เขาอาจจะตกงานได้

ในทางกลับกันหากเขาตัดสินใจ เหมือนเหมือนกับที่ผู้จัดการกองทุนคนอื่นทำกัน หากผลลัพธ์ออกมาแย่ ก็จะไม่มีใครว่าเขาได้

ประวัติการบริหารชั้นเยี่ยมเมื่อวัดจากผลตอบแทนทางเศรษฐกิจจะขึ้นอยู่กับตัวธุรกิจมากกว่าอยู่กับตัวผู้บริหาร แม้ความฉลาดและความพยายามจะมีส่วนช่วยอย่างมากทั้งในธุรกิจที่ดีและไม่ดีก็ตาม - วอร์เรนบัฟเฟตต์

เมื่อผู้บริหารที่มีชื่อเสียงว่าเฉลียวฉลาดเข้ามาบริหารธุรกิจซึ่งมีชื่อเสียงว่ามีปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจอันย่ำแย่ ตัวชื่อเสียงของธุรกิจจะเป็นสิ่งที่ยังคงอยู่

การลงทุน คือการจัดสรรเงินลงทุน

ผู้คนส่วนมาก ไม่ชอบฟังเหตุผลหรอก สิ่งที่เป็นเหตุผลมักไม่ใช่สิ่งที่ถูกใจ และสิ่งที่ถูกใจมักไม่ค่อยมีเรื่องของเหตุผลเข้ามาเกี่ยวข้อง

ในโลกของการลงทุนทุกคนสามารถทำความเข้าใจทุกสิ่งได้ หากศึกษามากพอ

อย่าเอาไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว แต่ถ้าตะกร้านั้นแข็งแรงและอยู่ในที่ปลอดภัยเพียงพอ การเก็บไข่ไว้ในตะกร้านั้นอาจเป็นเรื่องฉลาด

การคัดเลือกไข่เป็นเรื่องสำคัญกว่าการจับตามองไข่ที่เลือกมาแล้ว เพราะการเลือกไข่เน่า จับตามองยังไงก็ไม่ทำให้ไข่กลับคืนมาได้ ดังนั้นสำคัญที่สุด คือการเลือกไข่ #หุ้นก็เช่นกัน

ในการคัดเลือกหุ้น จะต้องมีความมั่นใจว่า สามารถเข้าใจบริษัท อุตสาหกรรม และอนาคตของบริษัทได้เป็นอย่างดี 

รวมถึงยังต้องมั่นใจอีกด้วยว่า บริษัทจะสามารถสร้างผลการดำเนินงานที่ดีได้ต่อเนื่อง และทำให้มูลค่าของผู้ถือหุ้นสูงขึ้น

การศึกษาหุ้นเป็นอย่างดีนั้น ข้อมูลและความเข้าใจเป็นสิ่งที่เข้ามาทดแทนการกระจายความเสี่ยง

การลงทุนใน หุ้นฟื้นตัว หุ้นวัฎจักร ให้ประสบความสำเร็จนั้น ต้องอาศัยจังหวะเวลาเป็นอย่างมาก

จากประวัติศาสตร์ ทุกครั้ง การพังทลายของราคา ที่จะสร้างความเสียหายให้กับคนจำนวนมากได้นั้น จะเกิดขึ้นกับ Asset ที่มีราคาสูงอย่างมากมายสุดๆเท่นนั้น ฟองสบู่มันไม่ได้แตกบน Asset ที่มีราคาต่ำ

การเรียนรู้นั้นมาพร้อมกับความผิดพลาด สำคัญที่ต้องยอมรับในการเผชิญหน้า กับความผิดพลาด

เราต้องพิจารณาว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการและมันมีความเป็นไปได้ไหม

บุฟเฟ่ต์ขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยของอร่อยให้เราเลือกมากมายเกินกว่าที่เราจะลองชิมมันได้ทั้งหมด เราต้องรู้จักปฏิเสธบางอย่าง ที่เราต้องการ เพื่อจะได้ในสิ่งที่เราต้องการมากกว่า เราต้องจัดลำดับ รวมถึงปฎิเสธเป็น #ชีวิตก็เช่นกัน

สิ่งสำคัญคือห้ามสับสนระหว่างเป้าหมายและความอยาก

เป้าหมายคือสิ่งที่เราต้องการที่จะไปให้ถึงมันในขณะที่ความอยากคือสิ่งที่เราอยากได้แต่สามารถขัดขวางเรา ทำให้เราไปไม่ถึงเป้าหมาย

ความอยาก คือสิ่งที่ตอบรับในผลลัพธ์แรก เช่น อยากเป็นคนมั่งมี แต่พอหาเงินได้ อยากใช้เงินซื้อสิ่งของก่อน

ทำให้สรุปได้ว่าเป้าหมายคือสิ่งที่ดี ในขณะที่ความอยากคือสิ่งที่แย่

แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้บังคับว่าเราจะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เราอาจจะเลือกที่จะซื้อของ ไปพร้อมๆกับการเก็บออมไปด้วยก็ได้ แต่ต้องรู้ถึงผลลัพธ์ที่ตามมาของมัน ว่าออมไม่เต็มที่ ความมั่งคั่งก็ลดลง

คนส่วนมาก ที่พลาดในขั้นตอนนี้ คือมองที่ระยะสั้นมากเกินไป (อยากได้ อยากใช้จ่าย) จนหลงลืมเป้าหมายระยะยาวที่เขาต้องการ

ถึงกิจการจะพื้นๆ ไม่ได้ดีนัก แต่หากว่าราคาต่ำกว่าพื้นฐานมากพอสมควร ก็สามารถลงทุนได้

การประเมินมูลค่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าทุกคน

พอร์ตที่มีการลงทุนแบบโฟกัส การประเมินมูลค่าก็จะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นไปอีก


นักลงทุนจำนวนไม่น้อยชอบลงทุนในบริษัทที่ไม่เคยมีกำไร บนความคาดหวังว่า พวกมันจะกลายเป็นดาวจรัสแสงในอนาคต

จงพิถีพิถันในการระบุปัญหา
แก้ปัญหาเล็กก่อนเพื่อสร้างความมั่นใจ
อย่าสับสนระหว่างปัญหากับสาเหตุ
(ทำงานไม่มีประสิทธิภาพเพราะง่วงนอน จากเมื่อคืนนอนดึก สาเหตุคือนอนดึก ปัญหาคือ ทำงานได้ไม่เต็มที่)

การรู้ถึงปัญหาแล้วไม่แก้ มีค่าเท่ากับการไม่รู้ปัญหา

ตามปกติแล้วความต้องการมักจะขัดกับเป้าหมายของเรา เช่น อยากได้กำไรจากการลงทุน ในตลาดหุ้น แต่รอไม่เป็น

 หรืออยากมีรูปร่างดี แต่ไม่ชอบความทรมานจากการออกกำลังกาย

ความทรมานที่มาพร้อมกับการค้นหาตัวเอง เรียกว่า growing Pain มันคือความทรมานที่เพิ่มมากขึ้นพร้อมกับการเติบโตของเรา ตรงกับคำพูดที่ว่า ไม่เจ็บ ไม่โต

การเรียนรู้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเพราะเราทำความผิดพลาด และเราปรับปรุงมัน
หรือเรียนรู้จากประสบการณ์ของผู้อื่น

การประเมินมูลค่าเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการลงทุนและสำหรับพอร์ตที่โฟกัสนั้น การประเมินมูลค่ายิ่งสำคัญมากขึ้นไปอีก

มูลค่าไม่ใช่ตัวเลขเป๊ะแต่เป็นช่วงเพื่อที่เราจะได้รู้ว่าราคาในตลาดสูงหรือต่ำกว่ามูลค่า
 การดูมูลค่าก็เปรียบเสมือนกับการดูคนอ้วนหรือเปล่าเราอาจจะไม่รู้น้ำหนักเขาเป๊ะๆแต่เรามองปุ๊บก็พอจะรู้ได้ว่าเขาอ้วนหรือเขาผอม มูลค่าก็เช่นกันอาจไม่จำเป็นต้องรู้แบบเป๊ะแต่ต้องรู้โดยประมาณราคาตลาดตอนนี้ถูกหรือแพงกว่ามูลค่า

การทำธุรกิจหรือการค้าขายจริงๆนั้น มีจุดที่ต่างจากการเป็นหุ้นส่วนโดยการซื้อหุ้นที่สำคัญอย่างนึง คือ ในบางธุรกิจแม้เจ้าของจะรู้ว่าอยู่ในรอบของอุตสาหกรรม sunset แต่ก็ไม่สามารถที่จะปิดหรือเปลี่ยนกิจการได้ เพราะมันมีเรื่องของความผูกพันกับกิจการ การสืบทอดกิจการ การส่งต่อกิจการ พูดง่ายๆคือมันมีปัจจัยอื่นนอกเหนือจากเรื่องการทำกำไรที่ส่งผลต่อการตัดสินใจในการดำเนินธุรกิจต่อ

มุมหนึ่งก็เป็นข้อดีในเมื่อถอยไม่ได้ก็ต้องลุยกับมันอย่างเต็มที่ แต่อีกมุมนึงก็เป็นข้อเสียบางทีก็รู้ทั้งรู้ว่ากิจการในอุตสาหกรรมนั้นไม่มีทางรุ่งแน่ๆแต่ก็ไม่สามารถปิดกิจการได้เพราะคำว่ารับช่วงสืบทอดกิจการมา รวมถึงยังมีปัจจัยอื่นๆ เช่น พนักงานเก่าแก่ที่จะต้องดูแลกันไป

พูดง่ายๆก็คือกิจการที่ส่งทอดสืบต่อกันมาเป็นธุรกิจที่ exit ได้ยาก

การซื้อหุ้นของกิจการที่เลวในราคาถูกไม่ทำให้เรารวย และการซื้อหุ้นของกิจการที่ดีในราคาแพงก็ไม่ทำให้เราได้ผลตอบแทนที่ดี

เลือกหุ้นที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคทางเศรษฐกิจหรือการเมืองก็ตาม เข้าพอร์ต 
ไม่มีใครสามารถคาดเดาภาวะเศรษฐกิจล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำดังนั้นอย่าสนใจเรื่องภาวะเศรษฐกิจถือพอร์ตของหุ้นที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร

อย่าซื้อขายหุ้นโดยอิงจากภาวะตลาด หรือราคาของหุ้นรายวันหรือรายเดือนให้พิจารณาปรับพอร์ตจากข้อมูลพื้นฐานของบริษัท เช่น ผลการดำเนินงาน ความแข็งแกร่งของกิจการ ปัจจัยภายนอกที่กระทบกับการดำเนินงานของบริษัท โดยเฉลี่ยแล้วระยะเวลาการถือหุ้นแต่ละตัวไม่ควรจะต่ำกว่า 2-3 ปี

ในปี 2020 ที่มีวิกฤตโควิดการเลือกหุ้นเข้าลงทุนสิ่งที่สำคัญที่สุด คือบริษัทนั้นจะต้องไม่ล้มหายตายจากเพราะผลกระทบจากวิกฤต ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องดูคือบริษัทมีความมั่นคงทางการเงินโดยเฉพาะในเรื่องของสภาพคล่อง เพราะในช่วงที่มีวิกฤตบริษัทมักจะขาดสภาพคล่องพร้อมกัน การเพิ่มวงเงินกู้แบงค์ก็จะทำได้ยาก ในบริษัทที่ขาดสภาพคล่องมากๆก็อาจจะถึงขั้นเพิ่มทุน ส่งผลให้เกิดการไดรูท 

มันจึงเป็นบทเรียนให้กับทุกวิกฤตได้ว่าการคัดเลือกหุ้นลงทุนในยามที่มีวิกฤต ควรเลือกบริษัทที่มีความมั่นคงทางการเงินและมีสภาพคล่องที่ค่อนข้างสูงมากกว่าจะมุ่งเน้นไปที่การเติบโตเพียงอย่างเดียว

ถ้าเราถือหุ้นอยู่ตัวนึงแล้วตั้งใจจะขายเมื่อมัน overprice ไปมากๆ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไรมันเกินมูลค่าไปมากๆ จริงๆแล้วบ.ที่มีความแข็งแกร่งและมีความสามารถในการเพิ่มกำไรได้ต่อเนื่องนั้น มักมีราคา Over price แทบจะเป็นปกติ
ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่า บริษัทที่เติบโตอย่างต่อเนื่องนั้นจุดไหนคือจุดที่เกินมูลค่าจริงๆ
การขายหุ้นด้วยเหตุผลว่าราคาขึ้นไปสูงมากแล้วมันอาจจะลดลงมา เราจึงขายก่อนแล้วค่อยไปรอซื้อตอนถูก เป็นความคิดที่แย่มากสำหรับการลงทุน

 มันคนละเรื่องกับการขายของเทรดเดอร์ที่ต้องดูราคาเป็นหลัก  

นลทควรจะขายด้วยเหตุผลทางธุรกิจของกิจการเป็นหลัก เช่น กิจการหมดความสามารถในการเติบโต

ถ้าจะต้องถือหุ้นยาว ขนาดที่ว่า ขายเมื่อกิจการหมดความสามารถแล้วล่ะก็ จุดสำคัญจะอยู่ที่ตอนซื้อ เพราะทุกคนมีเม็ดเงินจำกัด ซื้อแล้ว อาจพลาดโอกาสซื้อตัวอื่นไปอีกนานแสนนาน ดันนั้น การตัดสินใจซื้อแต่ละครั้ง ต้องมั่นใจจริงๆ ว่าคุ้มค่าที่จะทิ้งโอกาสตัวอื่นไป

อวดคนอื่น จะร้อนรน 
อวดตัวเอง จะนอนยิ้ม 
เมื่อไรที่อวดจะมีคนเกลียดเราเพิ่ม 

อะไรที่ภูมิใจให้เก็บไว้ในใจ เพราะถ้าเอาออกมาข้างนอกจะกลายเป็นอวดไป จะกลายเป็นเสียหายไป