วันจันทร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2562

AGM SPALI 1st 2019

AGM SPALI 1st 2019

2018
ปีนี้ครบรอบ 30 ปี 
-ศุภาลัยเอสเซ้นส์ทาวน์เฮ้าส์ราคาสูง บ้านเดี่ยวบ้านแฝดทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น ขายดีมาก ขายเกือบหมดแล้ว

-Veranda สุขุมวิท 117 ที่ดินผอมบาง แต่ออกแบบเก่ง ออกแบบแล้วก็ขายดี มีดีไซด์ใหม่ๆ มีบันไดสายรุ้ง มีสกายเล้าจ์ชั้นบน 2ชั้น ตช ที่รู้ก็มาจองเอง ไม่ได้ผ่านเอเจ้นท์
-Loft ประชาธิปปก ขายดีมาก เกือบหมดแล้ว ทำเลดี บริหารต้นทุนได้มีประสิทธิภาพ เลยส่งต่อให้ลูกค้าได้ถูก
-Veranda รามคำแหง ประมูลมา 180,000 ต่อวา  นำมาขาย ตรม ละ 6-70,000  หน้าติดรถไฟฟ้า  ใกล้ กกท ขายดีมาก ด้านหลัง Tops มาเหมาไป เราทำ Best buy เสมอในทุกทำเล
-Prima Villa บางขุนเทียน พระราม2 ติดถนนใหญ่ ติดคลองใหญ่ อากาศดี โครงการนี้บ้าน 100 ตรวา ทั้งหมด เป็น Home Automation  ราคาตั้งแต่ไม่ถึง 10 ลบ จน 10 ล้านกว่า
-Tris Rating A stable ให้เรามาหลายปีแล้ว ในบ.อสังหามีได้ A เพียง 3 บ.เท่านั้น เราเป็น 1 ใน 3
-Supalai Veranda รัชวิภา-ประชาชื่น ได้รางวัลประหยัดพลังงาน และรางวัลต่างๆ

ปี 2018 ตลาดอสังหาดีในช่วงต้นปีและดรอปลงในช่วงท้ายปีโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากประกาศมาตรการ LTV ทำให้ผู้บริโภคเป็นกังวล ผลกระทบจริงๆมีไม่ได้มากนัก และเป็นปีที่ดีมากๆของบริษัท

Pre-sale
ปีที่แล้วตั้งเป้า  33,000 ลบ เราจบปีไปที่ 33,343 ลบ เติบโต 8%    2019 ตั้งเป้า 35,000 ลบ

2018 Presale มาจากคอนโด 52% (Bkk 47%, ตจว 5%)   Low rise Bkk 27% , Low rise ตจว 21%
เท่ากับเรามียอดขายจากภูมิภาค 26% เราเป็น บ.ที่มียอดขายจาก ตจว มากที่สุดเมื่อเทียบกับทุก บ.ในประเทศ เรายินดีและ เป็นแผนต่อเนื่องของเราอยู่แล้วที่จะเติบโตใน ตจว ในทุกๆปีตลอด 10ปีหลังมานี้

ปีนี้เป็นปีที่ดีในทุกด้าน คอนโดใน กทม +11% yoy บ้านในกทม +1%, บ้านในตจว +12%, คอนโดในตจว +18% yoy
ปี 2019 ตั้งเป้าไว้ 35,000 ลบ สัดส่วน คอนโด ตจว 3% คอนโดกทม 47%, บ้านตจว 24 และบ้าน กทม 26%

ตจว ตอนนี้เราทำไปแล้วทั้งหมด 12 จังหวัด เชียงรายเชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช  ภูเก็ต สงขลา อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมาอุบลราชธานี

รายได้ ปี 2018 จบไปที่ 25,810 ลบ ปี 2019 ตั้งเป้าที่ 28,000 ลบ คิดเป็นการเติบโตประมาณ 8% โดยรายได้ของปี 2019 จะมาจาก Backlog 13,407 ลบ ที่เพิ่มเติมจากนี้จะมาจาก ยอดโอนแนวราบ ที่ขายในปีนี้แล้วโอนในปีเดียวกัน และคอนโดที่เสร็จสมบูรณ์ในปีนี้แล้วขายแล้วโอนในปีนี้ จนถึงวันนี้ เราเชื่อว่าเราสามารถทำได้ตามเป้า เนื่องจากมี Backlog ที่แข็งแรง

งบลงทุนปี 2019 ตั้งงบซื้อที่ได้ 8,000ลบ และงบก่อสร้าง 9.8 พันล้าน

ปีนี้วางแผนเปิดตัว 34 โครงการ มูลค่า 40,000 ลบ เราจะเป็นคอนโดมิเนียม 6โครงการ 48% มูลค่าเกือบ 2 หมื่นล้าน แนวราบในกรุงเทพฯมูลค่า 26% ของที่เราจะเปิด (13 โครงการ) บ้านไปต่างจังหวัด 26 เปอร์เซ็นต์  15 โครงการ เห็นว่าเรายังรุกตลาดต่างจังหวัดอยู่ ที่ดินทั้งหมดของ 34 โครงการเราซื้อเอาไว้หมดแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อให้เปิดตัวได้ ปีนี้การเปิดตัวจะกระจายอยู่ในไตรมาส 2 3 และ 4 เป็นหลัก

การเปิดตัวในปีนี้ 2019 จะเป็นการเปิดตัวโครงการที่มากที่สุดตั้งแต่เราตั้งบริษัทมา และเป็นปีที่เราเปิดตัวมูลค่าโครงการมากที่สุดเช่นกัน ตลอดปีนี้บางคนก็มองตลาดดีมากมีน้อยแต่เราเชื่อว่าการกินส่วนแบ่งการตลาดของบริษัทรายใหญ่จะมีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ถ้าสนใจสามารถไปหลายที่ทำ product ให้เหมาะกับลูกค้า ในราคาที่เป็นมิตร มันจะทำให้เราสามารถเพิ่มยอดขายและกินส่วนแบ่งตลาดได้แม้จะเป็นปีที่มีปัจจัยลบบ้างก็ตาม

Supali ICON SATHORN Presale 25-26 May 9 - 280 MB

ปี 2560 มีขายอาคารสำนักงานในฟิลิปปินส์ มีกำไร 400 กว่าลบ ทำไมในปี 2560 มีกำไรค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับปี 2561 เลยดูเหมือนจะโตไม่มาก

รายได้จากการโอน ในปี 2018 มียอดโอน 25,203 ล้านบาท มากกว่าปี 2017 อยู่ 802 ล้านบาท +3%
เป็นยอดโอนจากแนวราบ 55 เปอร์เซ็นต์
รายได้รวมปี 2018  ยอด  25,810 ล้านบาท +1% จากปี 2017 เพราะปี 2017 มีการขายอาคารสำนักงาน สำหรับให้เช่า  ที่ฟิลิปปินส์   การขายออกไปทำให้มีกำไร 400 กว่าล้านในปีที่แล้ว (2017) ทำให้ปีที่แล้วมีรายได้ค่อนข้างสูง

ค่าใช้จ่ายในการบริหาร คิดเป็น 10.9 % เมื่อเทียบกับรายได้รวม ในขณะที่ปีที่แล้วอยู่ที่ 10.4 % เหตุผลในการเพิ่มขึ้นก็คือ ค่าใช้จ่ายหลักๆเพิ่มขึ้นตามจำนวนโครงการที่เพิ่มมากขึ้น จะเห็นว่าแต่ละปีละเปิดโครงการค่อนข้างมาก ในส่วนของกำไรสุทธิ ปี 2561  อยู่ที่ 5,770 ล้าน ปี 2060 อยู่ที่  5,814 ล้าน เหตุผลก็อย่างที่แจ้งไป คือปีที่แล้วบ.ย่อยมีขายในอาคารสำนักงาน เป็นกำไรพิเศษ ในส่วนของ Net profit margin  ยังอยู่ในอัตราที่ดี  22.4 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ เทียบกับบริษัทอสังหาทั่วไปที่ต่ำกว่า 20%

กำไรต่อหุ้น ในปี 2018 มีกำไรต่อหุ้น 2.92 บาท ปีก่อนหน้า 3.39 บาทต่อหุ้นสาเหตุหลักคือกำไรสุทธิลดลงนิดนึงอีกส่วนเกิดจากการที่เราออกใบสำคัญแสดงสิทธิ์ออกไปแล้วผู้ถือหุ้น Exercise เกือบหมดเหลือเพียงประมาณ 2 ล้านหน่วยเท่านั้นที่ไม่มา Exercise ทำให้มีการไดลูดลงไป

งบแสดงฐานะการเงิน
สินทรัพย์รวมในปี 2561 แบบตัวค่อนข้างมากคือเพิ่มขึ้นจาก 55,746 ล้านบาทเป็น 57,704 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์ สาเหตุหลักคือเราขยายโครงการเรามีการสร้างอาคารรองรับการส่งมอบให้กับลูกค้ารวมทั้งบ้านด้วย  แต่พอหันมาดูทางภาระหนี้สิน กลับตรงข้ามจริงๆถ้าเราสร้างเยอะก็ควรจะกู้เยอะด้วยแต่เรามีการรองรับ
1 มีการเพิ่มทุนจากการออก Warrant-4
2 มีการโอนเยอะมีเงินมาชำระคืนหนี้สถาบันการเงินเยอะ
ปลายปีที่ผ่านมานี่สถาบันการเงินของเราเป็นศูนย์
มีเฉพาะภาระหนี้ที่เป็นหุ้นกู้ที่เราออกไปก่อนหน้านี้เมื่อหลายปี และก็ภาระหนี้ที่เรามีต่อสถาบันการเงินที่เป็นศูนย์ก็ต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 1
จะเห็นว่าหนี้สถาบันการเงินของเราลดไปตั้ง 26 เปอร์เซ็นต์จากเดิม 19,971 ล้านพอถึงสิ้นปี 2561 อยู่ที่ 14,767 ล้าน
ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น หลักๆก็คือเพิ่มทุนจากการ Exercise Warrant  และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น ทำให้เติบโต 22 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันทุนจดทะเบียนชําระแล้ว 2143 ล้าน ในขณะที่ปีที่แล้วอยู่ที่ 1717 ล้าน

Net Gearing  (ภาระหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายจริงๆ ) ปี 2560 อยู่ที่ 60  อยู่ที่ 68 เปอร์เซ็นต์

Net Gearing  คือภาระหนี้สถาบันการเงินหรือภาระหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยจ่ายจริงๆ คือถ้าดูทางด้านงบแสดงฐานะการเงินทางด้านหนี้สินจะมีหลายอย่างหนึ่งมีหนี้เจ้าหนี้การค้าการรับเงินจากการขายโครงการที่เป็นเงินดาวน์เงินจองเงินผ่อนชำระต่างๆก็ถือเป็นหนี้สินเหมือนกันคือเรารับมาแล้วยังไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้าพวกนี้คือหนี้ที่ไม่มีดอกเบี้ย ส่วนหนี้ที่มีความเสี่ยงคืนหนี้ที่เราต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับเจ้าหนี้ก็คือสถาบันการเงินรวมทั้งผู้ถือหุ้นกู้ต่างๆที่เราออกบอนด์ไป  จะเห็นว่ามันลดลงค่อนข้างเยอะเหลือแค่ 39% ณ สิ้นปีที่ผ่านมาจาก 68% เหลือ 39% ในปีที่ผ่านมาเราโอนเยอะและเพิ่มทุนด้วยทำให้ฐานะทางการเงินของเราค่อนข้างแข็งแกร่ง ทำให้ปีนี้ Tris รีวิวและก็ยังคงอันดับให้เรา  A stable ทำให้ต้นทุนทางการเงินค่อนข้างต่ำอยู่ที่ 2.3 9%

(ดร. ประทีป กล่าว )
ท่านเห็นตัวเลขต่างๆทางบัญชี ทางการเงิน ท่านสามารถรับรู้ตัวเลขต่างๆ เรื่องของหุ้น เรื่องเกี่ยวกับบริษัทในเชิงตัวเลขจากโบรกเกอร์จากนักวิเคราะห์จาก oppday ที่เราเปิดแถลงข่าวปีละ 2 หน ดูย้อนหลังได้ ถ้าท่านอยากจะรับรู้เกี่ยวกับโครงการของบริษัทว่าเป็นอย่างไรบ้าง ดูใน Social Media เปิดเข้าไปดูในเว็บไซต์ศุภาลัยดอทคอม เปิดดูใน Facebook YouTube  เปิดดูได้  Search Google ก็ได้ พวกเราเป็นเจ้าของร่วมกัน ก็สามารถดูได้ดูได้หมด แล้วมีหนังสือ at home เป็น Magazine  ความรู้เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์เรื่องของชีวิตเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมแจกฟรี อีกเล่มหนึ่งก็คือ Home Choice โครงการที่ขายอยู่มีอะไรบ้าง เจอเพื่อนเจอญาติอะไรก็ช่วยกันเผยแพร่เพราะเราเป็นเจ้าของร่วมกันอยู่แล้ว

ถาม เรามีคอนโดอยู่ 52 เปอร์เซ็นต์ มาตรการ ltv  ส่งผลอย่างไรบ้าง บริษัทมีกลยุทธ์อะไร ที่ให้ยอดขายไม่ตกต่ำกว่าปีที่ผ่านมา

ตอบ มาตรการ ltv เท่าที่เราศึกษามาผลกระทบจริงๆจะกระทบกับสินค้าแนวราบมากกว่าอย่างน้อยสำหรับศุภาลัย  เพราะคอนโดของเรามีการเก็บเงินดาวน์ลูกค้าตั้งแต่ 16 เปอร์เซ็นต์ 18 เปอร์เซ็นต์ 20% ถึง 25% อยู่แล้ว แปลว่าถึง ltv  cap ปกติคนจะมองว่าแอลทีวีจะลดเหลือ 80 เปอร์เซ็นต์จากเมื่อก่อน 100 กว่าเปอร์เซ็นต์ แต่จริงๆแล้วลูกค้าคงกู้เกินกว่า 3 ปี ถ้ากู้มาแล้วเกิน 3 ปี LTV Cap จะอยู่ที่  90% แปลว่าลูกค้าแทบทั้งหมดของเราคือเขาจ่ายเงินดาวน์มาแล้ว 16 เปอร์เซ็นต์ขั้นต่ำ  การที่เหลือ LTE Cap 90% เขาก็เหลือเฟือ ก็เพียงพอกับการที่เขาจะกู้บ้านหลังนั้นได้อยู่ ดังนั้นคอนโดมิเนียนที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อยมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราเป็นบริษัทที่
1.เราเก็บเงินดาวน์เยอะ
2.เรามีอัตราลูกค้าที่เก็งกำไรค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว

จะสังเกตเห็นได้ชัดว่าหลายโครงการเวลาเราเปิดจองอย่างเช่นประชาธิปกหรือเจริญนครเราบังคับเลยว่าลูกค้าคนนึงซื้อได้แค่ห้องเดียวในขณะที่มีบาง developer มีการ Encourage ให้ลูกค้าซื้อมากกว่า 1 ห้องด้วยซ้ำแต่เรานี่ตรงข้ามกันเลยเราต้องการแน่ใจว่าลูกค้าที่มาซื้อแค่ 1 ยูนิตเพราะเราหวังว่าเขาจะโอนกรรมสิทธิ์และอยู่ด้วยตัวเอง เพราะเมื่อเราทำอย่างนี้เนี่ย ทำให้ความเสี่ยงที่ลูกค้าจะเพิ่งกู้มาไม่เกิน 3 ปีมีน้อยลง ทำให้โอกาสที่เขาจะกู้โดยไม่โดนมาตรการ ltv มาบีบบังคับมีมากขึ้น

แต่จริงๆแล้วผลกระทบมีกับสินค้าแนวราบมากกว่าสินค้าอะไรที่สร้างเสร็จพร้อมขายพร้อมโอนจะได้รับผลกระทบมากกว่า เพราะจะทำให้ลูกค้าไม่มีเวลาเตรียมตัวในการผ่อนดาวน์ ยอมรับตามตรงว่าลูกค้าจะซื้อบ้านเดี่ยวทาวน์โฮมหรือคอนโดที่สร้างเสร็จพร้อมโอนเนี่ยจะมีบางส่วนที่ไม่มีเงินวางดาวน์ 10% ก้อนนั้น แต่เท่าที่เราศึกษามาก็มีประมาณ 5-6 เปอร์เซ็นต์ของตลาดเท่านั้น ผลกระทบมีบ้าง บังเอิญนโยบายของเราช่วยเหลือให้เราไม่โดนผลกระทบจากมาตรการ ltv โดยตรงอยู่แล้วเพราะเราสกัดกั้นการเก็งกำไรอยู่แล้วเรามีการเก็บเงินดาวน์ในอัตราที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้วดังนั้นเราแทบไม่ต้องเปลี่ยนอะไรมากในแง่ของคอนโดมิเนียม แต่ในแนวราบสิ่งที่เราทำได้บ้างคือจะมีการขายบ้านในลักษณะผ่อนดาวน์มากขึ้น ทำให้มีเวลาให้กับลูกค้าในการผ่อนชำระ เมื่อถึงเวลาโอนกรรมสิทธิ์เขาจะได้ผ่อนดาวน์มาแล้ว 10 เปอร์เซ็นต์ และสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้โดยได้ LTV 90%
และโครงการที่เรานำมาเสนอในปีนี้อยู่ในทำเลที่น่าสนใจ แนวราบขายทำเลเราต่อยอดจากปีที่ผ่านมา เช่นแนวราบเรามีทำบ้านระดับ 10 ล้าน แล้วขายได้ค่อนข้างดี เราก็จะทำต่อยอดไป และต่างจังหวัดก็ยังเป็นตลาดที่เราให้ความสำคัญและยังไปได้ดีมากๆในช่วงปีที่ผ่านมา โครงการใหญ่เช่นศุภาลัยไอคอนเราเชื่อว่าน่าจะทำยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ

(ดร ประทีป ตั้งมติธรรม)
วาระที่7 วาระอื่นๆ ท่านสามารถสอบถามได้ทุกเรื่อง หลังจากนั้นก็จะปิดประชุมแล้วจะเป็นการพูดคุยหลังการจดรายงานการประชุมท่านสามารถทำได้ทุกถามได้ทุกเรื่องผมก็อยู่ที่นี่ถ้าจะคุยอะไรกับผมก็ได้เดินเข้ามาคุยกับผมได้เลยหลังประชุม มีคำถามที่อยากจะให้จดลงในรายงานการประชุมไหมครับถ้าไม่ได้จำเป็นอย่างนั้นเราก็จะปิดประชุมอย่างเป็นทางการเพื่อที่ท่านที่ ธุระจะได้กลับไปส่วนท่านที่ไม่มีธุระจะพูดคุยอะไรก็ตามสะดวก ถ้ามีความเห็นอะไรจะแนะนำบริษัท ท่านไปดูโครงการของบริษัทที่โน่นที่นี่มันชอบอะไรมาเล่าสู่กันฟังชอบใจสินค้าของบริษัทในด้านไหนโครงการไหนชอบใช้บริการของพนักงานที่โครงการไหนยังไงมีอะไรมาเล่าสู่กันฟังได้  หรือท่านมีเกี่ยวกับการลงทุนเกี่ยวกับหุ้นศุภาลัย เป็นอย่างไรก็มาพูดคุยกันได้ มีไหมครับ
(ความเห็นส่วนตัว 👍👍👍)
เล่าให้ฟังเล่นๆที่ออสเตรเลียเราไปลงทุนอยู่โครงการ 1 เมืองจูล่อง ไปซื้อโรงงานปูนซีเมนต์เก่าบนไหล่เขาเป็นยอดเดินมีแท่งปูนอยู่เนื่องจากเป็นปูนซีเมนต์ เราก็เก็บไว้ทีแรกก็คิดว่าจะทุบทิ้งแต่มันจะต้องเสียเงินทุบอีกเราก็เลยเก็บไว้ แล้วไปเพ้นท์เป็นฮีโร่ของออสเตรเลีย 3 คน ทั้งแชมป์พาราลิมปิกที่เป็นผู้หญิงหน้าตาดี , อะบอริจินอล Queen  แล้วก็คนงาน คนก็แชร์ใน Social Media กันภายในเดือนเดียวคนดูทั้ง 6 ล้านวิวทั่วโลก ฮือฮามาก เราได้เซฟค่าทุบแล้วยังได้โฆษณาประชาสัมพันธ์ฟรี ทั่วโลก เป็นโครงการ GEN Fydford 

ถาม รถบรรทุกมาราคาที่ดินในเขตกรุงเทพฯปีนึงเพิ่มหลายๆเปอร์เซ็นต์ ท่านประธานและคณะกรรมการมีวิธีการติวเกี่ยวกับที่ดินหรืออย่างไรก่อนที่มาเป็นผลิตภัณฑ์ของศุภาลัย

ตอบ อันนี้เป็นจุดแข็งของเราเราสามารถซื้อที่ดินในทำเลที่ดีมากในราคาที่ไม่สูง เรามีวิธีของเรา ยังที่จะไป icon เราก็ประมูลมาในราคา 1 ล้าน 400,000 บาทต่อตารางวาหลายคนไม่ได้ไปประมูลเพราะคิดว่าสงสัยราคาต้องมีวาละ 1.8 ล้าน 1.9- 2 ล้าน เขาก็เลยไม่เข้าแต่เราประมูลได้ไม่ถึงล้านห้า คนอื่นเขาก็เสียดาย

อย่างที่รามคำแหงที่ดีมากเลยเราก็ประมูลได้ที่ 1 ราคาก็ไม่สูงวาระแค่แสนแปดเดี๋ยวนี้ถ้าไปซื้อก็ต้องมี 2 แสนกว่า เราก็ประมูลได้แล้วก็ขายดีมาก ด้านหนึ่งก็คือใครที่ร้อนเงินมาหาเรา เราก็จะตัดสินใจเร็ว เราเงินพร้อมต้นทุนทางการเงินเราต่ำเราสามารถที่จะจ่ายเงินเร็วได้ อันนี้เป็นสิ่งที่เป็นจุดแข็งของเราทางด้านการเงินที่ทำให้เราได้ที่ดีๆมา อีกด้านหนึ่งคือเรามีกำลังเงินที่เข้มแข็งและสามารถประมูลที่ใหญ่ๆได้ อย่างแปลงสถานทูตออสเตรเลียบริษัทขนาดกลางจะเข้าไม่ได้ สถานทูตเขาก็จะดูคุณได้ Credit Rating เท่าไหร่ ถ้าไม่ได้ A เขาก็ไม่พิจารณาซึ่งมันก็มีแค่ 3 บริษัทที่ได้ A  อีก 2 บริษัทไม่เสนอ ก็เหลือเราที่ได้ A ความเข้มแข็งทางด้านการเงินมีส่วนช่วยในเรื่องของการซื้อที่ เรามีวิธีการวิเคราะห์โครงการที่รวดเร็ว เรามีแบบ One Page analysis เราสามารถคิดวิเคราะห์โครงการได้ภายในเวลา 10 นาทีถ้าเรามีข้อมูลเรื่องของราคาที่ดินถ้าเรารู้ราคาขายในแถวนั้นเราจะทำอะไรเรามีสูตรที่จะคำนวณในเวลาที่เร็วมากทำให้เราตัดสินใจได้เร็ว แล้วทำอย่างนี้มาเป็นเวลา 30 ปีแล้ว ก็ไม่มีการขาดทุนเลย เราค่อนข้าง Out Performance  คู่แข่งที่ส่วนใหญ่เขาไม่ทำกัน

ส่วน Leased Hold เราก็มีดู แต่ถ้าอย่างเช่นในเมือง แถวราชดำริ ถ้ามีให้เช่า เราก็พิจารณามันต้องเป็นที่อะไรที่เราหาซื้อ Free Hold ไม่ได้

ท่านผู้ถือหุ้นไม่รู้จักใครที่จะขายที่ต่างๆก็ช่วยมาเสนอที่บริษัทเรารับซื้อที่ เรามีทีมงานดูทุกวันฝ่ายจัดหาที่ดินวิเคราะห์โครงการพร้อมที่จะคุยทุกวัน เราซื้อที่ใหม่ทุกอาทิตย์ ช่วยกันเสนอราคามาได้

ท่านผ่านที่ไหนก็แวะเข้าไปดูได้ที่เป็นศุภาลัยเปิดใหม่ มีหนังสือแจกฟรี ศุภาลัย at home เราแจกทุก 3 เดือนท่านก็จะได้ข่าวคราวต่างๆ