วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ความเห็น ดร.นิเวศน์ ต่อ TQM

Business Model ไขความลับธุรกิจเติบโต TNN16
EP1 TQM

ดร. วิศิษฐ์ tqm เป็นนายหน้าที่ ได้คอมมิชชั่นจากเบี้ยประกันภัย ภาพแมคโคร เบี้ยประกันภัยกับเบี้ยประกันชีวิตของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 8 แสนล้าน ส่วนใหญ่เป็นเบี้ยประกันชีวิต เมื่อปี 2012  เบี้ยจะอยู่ที่ประมาณ 5 แสนล้าน และมาเป็น 8แสนล้านบาทในปี 2017 เติบโตปี 9 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ เบี้ยประกันภัย  2012 อยู่ที่ประมาณแสนล้านและเตรียมตัวมาเป็น 2แสนล้านในปี 2017 โดยที่เบี้ยประกันภัยส่วนใหญ่จะอยู่ในเบี้ยประกันรถยนต์  Q and a  มี market Share เป็นอันดับ 1 ในเรื่องของเบี้ยประกันรถยนต์ จุดเด่นของ tqm คือมีพนักงานมากและมีศูนย์บริการมาก ลงทุน infrastructure ค่อนข้างเยอะ

ดร.นิเวศน์ tqm เป็นนายหน้าเป็นโบรกเกอร์ที่โดดเด่น น่าจะเป็นเพราะประสิทธิภาพในการทำงานของเขา เขาน่าจะมีอะไรที่ดีกว่าพวกที่เป็นรายละเอียดค่อนข้างชัดเจน เวลาเขาขายประกันแล้วพอใกล้ๆถึงเวลาที่เราต้องตัดสินใจเขาจะเป็นคนโทรมา เขาจะมาได้เวลาที่เราต้องตัดสินใจ แสดงว่าเขาคงเก่งในด้านนี้มีพนักงานที่เชี่ยวชาญรู้ว่าควรจะติดต่อตอนไหน มาดูภาพใหญ่ จริงๆบริษัทตัวค่อนข้างโตช้า 5-6 เปอร์เซ็นต์ต่อปีไม่เกินนี้ ปีล่าสุดโตเป็นพิเศษโตเป็น 10%  อาจเป็นเพราะเข้าตลาดใหม่ๆอาจมีอะไรบางอย่างที่เราไม่รู้แต่เราคิดว่าโดยภาพรวมของรถยนต์ผมว่ามันใกล้ๆอิ่มแล้วล่ะมันโตยากเพราะคนไทยก็ใช้กันเต็ม เดี๋ยวก็มี infrastructure อย่างอื่นเข้ามาอีก ถ้ามองไกลไปอีกนิดธุรกิจประกันภัยรถยนต์ใกล้อิ่มตัวมาก ประกันชีวิตผมก็เข้าใจว่าเขาจะเริ่มเร่งขึ้นมา ประกันสุขภาพประกันชีวิตโต คนมีลูกน้อยลงก็มาทำประกันชีวิตกัน เพียงแต่ในธุรกิจประกันชีวิตเขายังไม่เด่นและมีคู่แข่งที่หนักคือสถาบันการเงิน แบงค์เขาก็ลุยตรงนี้ ประกันชีวิตกับการออมมันก็เข้ามา merge กัน แล้วแบงค์ก็รู้ว่าใครมีเงิน เขาก็โทรหาลูกค้าได้อีกอย่างหนึ่งคือเรื่องของเทคโนโลยีอันนี้ก็น่ากลัวต่อไปอาจจะมีบริษัทใหญ่ มาทำแพลตฟอร์ม โบรกเกอร์ไม่เคยทำ platform  เพราะ platform จะมาฆ่าตัวโบรคเกอร์เอง อาจจะไปทำ platform ก็ได้ ต้องดูว่าจะทำอย่างนั้นหรือเปล่า ในขณะที่บริษัทที่ทำแพลตฟอร์มอย่างเดียว เขาไม่สนใจเขามีหน้าที่ฆ่าโบรคเกอร์ นี่คือ Technology in Digital  คือต้องการฆ่าของเดิม  มันแปลว่าถ้าคุณทำคุณจะฆ่าตัวเอง
เรามองย้อนหลังไปไกลนิดนึงตัวเลขปีล่าสุดผมว่าผิดปกติคือดีผิดปกติ ถ้ามองย้อนหลังไปมันไม่โตอย่างนั้น และถ้ามองไปข้างหน้าก็ไม่น่าจะโตเท่าปีที่ผ่านมา เพราะตัวอุตสาหกรรมมันไม่ได้รองรับ ตรงนี้ต้องขึ้นอยู่กับฝีมือและถ้าหากจะไปไกลได้ไหมที่จะโตไปกินมาเก็ตแชร์คนอื่น มันไม่ง่ายแต่ต้องรอดูว่าเขาจะทำได้ไหม แต่ตอนนี้ PE ประมาณ 25  ก็ตึงสำหรับผม ธุรกิจที่เป็นโบรกเกอร์เนี่ย พูดง่ายๆว่ามันไม่ได้มีความสามารถในการแข่งขัน คนเข้ามาเล่นได้เยอะ ธุรกิจต่างๆก็ไปอย่างรวดเร็วดิจิตอลเลยอะไรเอ่ย สถาบันต่างๆอย่างแบงค์ก็อยากเข้ามาเล่น ปันผลเท่าที่ดูไม่ถึง 1%  ถ้าเราไปดูธุรกิจแนวโบรกเกอร์เช่นบริษัทหลักทรัพย์พีอีต้องต่ำกว่านี้เยอะ ก็ดูว่าขึ้นอยู่กับฝีมือและกันต้องไปพิสูจน์ดู ถ้าใครอยากตามก็ต้องดูว่าเขาสามารถจะทำต่อไปได้แค่ไหน ต้องยังสามารถรักษาโมเมนตัมต่อไปได้ ถ้ารักษาไม่ได้ก็เหนื่อย ถ้ารักษาได้ก็อาจจะไม่แพง จุดแข็งของ tqm ชัดเจนเขาอยู่มานานมีระบบที่น่าจะเด่นกว่าคู่แข่งมีพนักงานที่เชี่ยวชาญและจำนวนเยอะ ด้วยไซต์ตรงนี้ก็ได้เปรียบ แต่อย่างที่ว่าคุณกำลังไม่ได้เจอกับโบรกเกอร์คุณกำลังเจอคนใหม่ซึ่งตรงนี้คนใหม่แบบแนว disrupt แนวอะไรพวกเนี้ยจะเป็นประเด็นที่ต้องจับตา สิ่งที่น่ากลัวคือ Business Model ใหม่ๆ ไม่ใช่ผู้เล่นที่เป็นโบรกเกอร์เหมือนกับเขา เพราะถ้าเป็นโบรกเกอร์เหมือนกับเขา tqm เขาเด่นกว่าแน่นอน แต่เขากำลังเจอกับ Business Model ใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงสถาบันการเงิน แบงค์ต่างๆ ก็อาจมาทำพวกนี้ แบงค์ก็อาจจะมีลูกมาทำพวกนี้ ซึ่งอาจจะเริ่มใช้แพลตฟอร์มเลย นาทีนี้ผมคิดว่าเขาแข็งแกร่งเป็นหุ้นแข็งแกร่ง

ปล.ข้อสังเกตส่วนตัว ดร.นิเวศน์ไม่ได้มอง TQM เป็นหุ้นโกรท