หนังสือโดยมากมักสอนไว้ว่า ROE สูงๆเป็น บ.ที่ดีเหมาะแก่การลงทุน จริงๆแล้ว ROE เพียงตัวมันเองบอกไม่ได้หรอกว่าดีจริงสำหรับการลงทุนของเรา มันอาจเป็น บ.ที่สร้างผลตอบแทนดี แต่ไม่ใช่ บ.ที่ดีสำหรับเราที่จะลงทุนเสมอไป ทำไมถึงบอกแบบนั้น ลองดูตัวอย่าง
บ.A (จ่ายปันผล 100%)
มี ROE 20% (และ ROE โตปีละ 10% เท่ากับการโกรทของกำไร)
มี Eauity 3,000M
ไม่มีหนี้
มีกำไร 600M เป็น
บ.ที่มีรายได้สม่ำเสมอ กำไรโกรทคาดการณ์ในอนาคต 5ปี เฉลี่ยปีละ 10%
เทรดกันที่พีอี 15 เท่า
Mkt cap 9,000M
ปีที่ 1 กำไร 600M
ปีที่ 2 กำไร 660M (เนื่องจากโกรท 10%)
ปีที่ 3 กำไร 726M
ปีที่ 4 กำไร 798M
ปีที่ 5 กำไร 878M
สมมติเราซื้อทั้ง บ.
สิ่งที่เราจ่าย 9000M
สิ่งที่เราได้จากผลการดำเนินงานของ บ. 600+660+726+798+878= 3,662M
เท่ากับ 5ปี ผลตอบแทน 40.68%
บ.B (จ่ายปันผล 100%)
มี ROE 10% (ROE โตปีละ 10% เท่ากับการโกรทของกำไร)
มี Eauity 3,000M
ไม่มีหนี้
มีกำไร 300M เป็น
บ.ที่มีรายได้สม่ำเสมอ กำไรโกรทคาดการณ์ในอนาคต 5ปี เฉลี่ยปีละ 10%
เทรดกันที่พีอี 10 เท่า
Mkt cap 3,000M
ปีที่ 1 กำไร 300M
ปีที่ 2 กำไร 330M (เนื่องจากโกรท 10%)
ปีที่ 3 กำไร 363M
ปีที่ 4 กำไร 399M
ปีที่ 5 กำไร 439M
สมมติเราซื้อทั้ง บ.
สิ่งที่เราจ่าย 3000M
สิ่งที่เราได้จากผลการดำเนินงานของ บ. 300+330+363+399+439=1,831M
เท่ากับ 5ปี ผลตอบแทน 61%
จะเห็นได้ว่า บ.ที่ ROE สูงๆ ไม่ได้แปลว่าผลตอบแทนการลงทุนจะดีกว่าเสมอไป
ราคาที่ซื้อต่างหาก ที่เป็นตัวแปรสำคัญ
อย่าหลงติดกัย ROE แต่เพียงอย่างเดียว