วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมา บริษัทเซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด จัดงานแถลงข่าว ชูกลยุทธ์ “นิว แฟมิลี่มาร์ท” ตั้งเป้าเติบโตร้อยละ 23 รุกขยายครบ 3,000 สาขาในปี 2560 เตรียมผลักดันสินค้าอาหารพร้อมทาน(Ready to Eat) ต่อเนื่องตลอดทั้งปี จัดขึ้น ณ ห้องประชุมเตียง จิราธิวัฒน์ ชั้น 16 อาคารชิดลมทาวเวอร์ แถลงข่าวโดยคุณ ณัฐ วงศ์พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร,คุณ เบญจวรรณ อ่องศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายปฏิบัติการและคุณ จุฑารัตน์ วงศ์สุวรรณ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาดบริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ภายใต้ชื่อ ”แฟมิลี่มาร์ท” หลังจากที่บริษัทเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำอันดับ 1 ในธุรกิจค้าปลีกของเมืองไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เข้าถือหุ้นเป็นสัดส่วนร้อยละ 50.29 ทำให้วันนี้แฟมิลี่มาร์ท มีความพร้อมในทุกด้าน ประกาศเดินหน้าดำเนินธุรกิจเต็มกำลัง ตั้งเป้าเติบโตร้อยละ 23 ในปี 2556 มั่นใจจะเป็นร้านสะดวกซื้อทางเลือกใหม่สำหรับลูกค้าทุกคนอย่างแน่นอนกรุงเทพฯ – 28 กุมภาพันธ์ 2556 นายณัฐ วงศ์พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด เผยแผนกลยุทธ์ปี 2556 ว่าบริษัทฯได้ตั้งเป้ายอดขายทั้งปีไว้ที่ 15,000 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสำคัญคือการเข้ามาบริหารงานโดยบริษัทเซ็นทรัลรีเทลฯ ที่ได้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในด้านต่างๆ อาทิ การพัฒนาสินค้าร่วมกับบริษัทเซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด (Tops), การทำโปรโมชั่นและกิจกรรมทางการตลาดร่วมกับบริษัทต่างๆในเครือ อีกทั้งแฟมิลี่มาร์ทยังได้วางแผนการพัฒนาธุรกิจร่วมกับบริษัทเครือเซ็นทรัล กรุ๊ป อาทิ การขยายสาขา, การพัฒนาระบบคลังสินค้าและระบบโลจิสติกส์ เป็นต้น โดยในปี 2556 บริษัทฯได้วางแผนการเปิดสาขาใหม่ในปีนี้อีกจำนวนกว่า 200 สาขา ทำให้ในปีนี้แฟมิลี่มาร์ทจะมีสาขารวมกันทั้งสิ้น 1,000 สาขาและตั้งเป้าขยายสาขาให้ครบ 3,000 สาขาแน่นอนในปี 2560” นายณัฐ กล่าวในปีนี้แฟมิลี่มาร์ทได้ชูกลยุทธ์ “นิว แฟมิลี่มาร์ท” เพื่อเสนอเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของร้านสะดวกซื้อสำหรับผู้บริโภค โดยจะรุกหนักในด้านการพัฒนาสินค้าด้วยการเพิ่มรายการสินค้าให้มีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี โดยฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสินค้าพร้อมทานหรือ Ready to Eat ซึ่งมีเมนูอาหารรวมทั้งสิ้นกว่า 200 เมนู อีกทั้งร้านแฟมิลี่มาร์ทมุ่งมั่นที่จะยกระดับมาตรฐานผลิตภัณฑ์โดยอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและนวัตกรรมใหม่ๆจากแฟมิลี่มาร์ทประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาให้สินค้าของแฟมิลี่มาร์ท มีความโดดเด่นและมีคุณภาพ โดยบริษัทฯจะมุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์สินค้าอาหารที่เป็น Exclusive Brand (Exclusive for FamilyMart only) ที่มีจำหน่ายเฉพาะที่ร้านแฟมิลี่มาร์ทเท่านั้น ซึ่งประกอบด้วยสินค้าอาหารพร้อมทาน หรือ Ready to Eat ภายใต้แบรนด์ “Quick Serve” ซึ่งมีทั้งสินค้า Frozen Bento (สินค้าแช่เยือกแข็ง) และสินค้า Chill Bento (สินค้าแช่เย็น) ที่มีจำนวนกว่า 50 เมนูให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ โดยจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างจากที่อื่นๆ เพราะจะเป็นอาหารที่ได้รับการพัฒนารสชาติให้ถูกปากคนไทยโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น และในเดือนมีนาคมนี้เราจะมี 5 เมนูใหม่ซึ่งเป็นไฮไลท์ในประเภทสินค้า Chill Bento หรืออาหารพร้อมทานในสไตล์ญี่ปุ่นได้แก่ ยากิโซบะหมู, ข้าวปลาแซลมอนย่างซีอิ๊ว, ข้าวปลาซาบะย่างซีอิ๊ว, ข้าวแกงกระหรี่หมูญี่ปุ่นและ ข้าวผัดกระเทียมหมูซีอิ๊วญี่ปุ่นสินค้า Kitty Collection เป็นสินค้าที่แฟมิลี่มาร์ทได้รับลิขสิทธิ์ในการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่าย โดยจะให้ความสำคัญกับกลุ่มสินค้าในกลุ่ม Food ประกอบด้วยสินค้า Lolly Pop, Chewy, Jelly และ Kitty Thai Snack มีจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ร้านแฟมิลี่มาร์ท ทุกสาขาโดยสินค้าทั้ง 2 กลุ่มถือได้ว่าเป็นสินค้าที่ Exclusive for FamliMart ที่จะทำให้ร้านแฟมิลี่มาร์ทมีความโดดเด่นและแตกต่าง และพร้อมจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างอย่างมีสไตล์นอกจากนั้นในปีนี้ร้านแฟมีลี่มาร์ททั้ง 1,000 สาขา จะมีสัดส่วนของร้านแฟรนไชส์ร้อยละ12 และอีกร้อยละ 88 จะเป็นร้านที่บริหารโดยบริษัทเซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท ทั้งนี้ทางบริษัทฯได้มีระบบร้านแฟรนไชส์ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเป็นผู้ประกอบการสามารถเข้าบริหารกิจการที่คุ้มค่าต่อการลงทุน โดยบริษัทจะให้ความช่วยเหลือในการดำเนินธุรกิจอย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลาที่เข้ามาเป็นแฟรนไชส์ส่วนนโยบายในการรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) นั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลแฟมิลี่มาร์ท จำกัด กล่าวว่า “ด้วยปณิธานหลักขององค์กร เราจะเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนกิจกรรมทางสังคมที่เป็นประโยชน์รวมถึงจะคืนกำไรให้กับสังคมอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ดังนั้น ร้านแฟมิลี่มาร์ทจึงพร้อมที่จะร่วมมอบสิ่งดีๆให้กับสังคม โดยนโยบายของเราจะเริ่มจากสิ่งที่ง่ายที่สุดแต่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับสังคมสิ่งแวดล้อม เนื่องจากร้านแฟมิลี่มาร์ท เป็นร้านสะดวกซื้อที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นในปีนี้ แฟมิลี่มาร์ท จึงมีนโยบายสำคัญทางด้าน CSR ดังนี้FamilyMart ECO Store : เป็นโครงการที่รณรงค์ให้ร้านแฟมิลี่มาร์ท เป็นร้านสะดวกซื้อที่ลดการใช้พลังงาน ด้วยการให้ความสำคัญในการเลือกใช้อุปกรณ์และระบบต่างๆภายในร้านให้คุ้มค่ากับพลังงานที่สูญเสียไปให้มากที่สุด อาทิ การให้หลอดไฟในการให้ความสว่างภายในและภายนอกร้าน, เครื่องปรับอากาศ, ตู้แช่สินค้านอกจากนั้นยังได้กำหนดนโยบายให้พนักงานร้านแฟมิลี่มาร์ท ได้ลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็นด้วยมาตรการต่างๆ ซึ่งในขณะนี้เรามีร้าน FamilyMart ECO Store ที่เป็นสาขาต้นแบบที่สาขา ลาดพร้าว 95, สาขาหัวหินและที่สาขาถนนอิสรภาพ เขตธนบุรี Green Smile Family : แคมเปญ CSR ของแฟมิลี่มาร์ทที่ต้องการรณรงค์ให้ลูกค้าได้ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและพร้อมที่จะสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมในการลด ละ เลิก การใช้ถุงพลาสติกในการจับจ่ายซื้อของทุกๆ วัน และหันมาใช้ถุงผ้าแทนแฟมิลี่มาร์ทร่วมกับมูลนิธิรักษ์ไทยจัดกิจกรรมเพื่อสังคม : เป็นกิจกรรมที่จัดทำร่วมกันมาต่อเนื่องตลอดทุกปี สำหรับแฟมิลี่มาร์ทและมูลนิธิรักษ์ไทย ด้วยการเชิญชวนลูกค้าร่วมบริจาคเงิน ที่กล่องรับบริจาคที่ตั้งอยู่ในร้านแฟมิลี่มาร์ททุกสาขา ทั้งนี้เงินบริจาคที่ได้รับทั้งหมดจะนำไปมอบให้กับมูลนิรักษ์ไทย สำหรับนำไปสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและกลุ่มคนด้อยโอกาสทางสังคมต่อไปในปี 2556 บริษัทฯได้วางงบการตลาดไว้ที่ 150 ล้านบาท โดยวางสัดส่วนเป็นงบประมาณสำหรับสาขาต่างๆในกรุงเทพและปริมณฑลร้อยละ 60 และอีกร้อยละ 40 เป็นงบการตลาดที่จะใช้กับสาขาในแหล่งนักท่องเที่ยวหลัก 3 แห่งคือ พัทยา, ภูเก็ต-ป่าตอง และสมุย“แฟมิลี่มาร์ท มีสาขาหลักๆตั้งอยู่ที่กรุงเทพและปริมณฑล เราจึงเลือกใช้สื่อที่เหมาะสมสำหรับสร้าง แบรนด์และรายการส่งเสริมการขายกับกลุ่มเป้าหมายตลอดทั้งปี และอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญของเราที่ถือได้ว่าเป็นหัวใจหลักในการสร้างยอดขายให้กับแฟมีลี่มาร์ท คือการให้ความสำคัญกับสาขาต่างๆที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวหลัก 3 พื้นที่ ได้แก่ พัทยา ภูเก็ต-ป่าตองและสมุย เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีจำนวนสาขาของแฟมีลี่มาร์ทตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก รวมกันทั้งสิ้นทั้ง 3 พื้นที่เป็นจำนวนกว่า 300 สาขา โดยมีกลุ่มเป้าหมายลูกค้าส่วนใหญ่เป็น นักท่องเที่ยว ซึ่งมีลูกค้าต่างชาติที่มาใช้บริการร้านแฟมิลี่มาร์ทมากที่สุดคือยุโรป, รัสเซียและชาวเอเชียได้แก่ จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี ตามลำดับ ซึ่งร้านของเราเป็นที่คุ้นเคยกับลูกค้าทั้งต่างชาติและชาวไทยมานานกว่า 20 ปี ดังนั้นเราจึงได้วางแผนการใช้สื่อที่เข้าถึงลูกค้าเป้าหมายทุกกลุ่มไม่ว่าจะเป็นโฆษณา ประชาสัมพันธ์ อีเวนต์ เว็บไซต์ รวมทั้งกิจกรรมทางการตลาดในเชิงรุกอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เน้นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายหลัก เพื่อให้แบรนด์แฟมิลี่มาร์ทเป็นที่จดจำและอยู่ในใจของลูกค้าตลอดไป”