วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2562

oppday XO 20/2/2562

oppday XO 20/2/2562
ก่อตั้งในปี 1999
บริษัทขายของเข้า consumer market  ใบ certificate ต่างๆจึงมีความสําคัญ
ครอบครัวจันทรัชถือหุ้นอยู่ 61 เปอร์เซ็นต์
ตลาดซอสปรุงรสต่างๆ

ซอสทาบาสโก้ ปี 2017  ยอดขายอยู่ที่ 7,600 ล้านบาท
คิกโคแมนซีอิ้วจากญี่ปุ่น ปี 2018 ยอดขายอยู่ที่ 128,000 ล้านบาท
ซอสไฮน์ ยอดขายปี 2018  อยู่ที่ 840,000 ลบ
ฮ่วยฟง ซอสศรีราขาตราไก่ ของอเมริกา ปี 2017 ยอดขาย 3,500 ลบ สร้าง รงใหม่ ใหญ่ขึ้นสิบเท่าตัว
ซอสหอยนางรมลีกุมกี่ ยอดขายปี 2017 อยู่ที่ 98,000 ลบ  ยอดขายแค่ 5 บริษัทนี้ ต่อปีเกิน 1 ล้านล้าน

มูลค่าการส่งออกซอสไทยไปต่างประเทศ เป็นข้อมูลที่พยายามรวบรวมมาอาจไม่ถูกต้องทั้งหมด
2014  ส่งออก 13,000 ลบ  เราเป็น 3.6%
2015 ส่งออก 13,500 ลบ เราเป็น 3.6%
2016 ส่งออก 14,000 ลบ เราเป็น 4.1%
2017 ส่งออก 12,700 ลบ เราเป็น 5.3%
2018 ส่งออก 13,300 ลบ เราเป็น 6.7%

XO มีสินค้า 5 กลุ่ม
1.น้ำจิ้มไก่ ซอสพริก มียอดขายเป็น 79% ของ บ.ในปลายปี 2018 กลุ่มนี้มี margin มากกว่า margin เฉลี่ยของบริษัท กำไรของบริษัทจะดีไม่ดีขึ้นอยู่ตรงนี้เป็นหลัก target ของบริษัทคือต้องขายสินค้าในกลุ่มนี้ให้ได้มากกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ของบริษัท
2. เครื่องแกงกะทิ ยอดขาย 11% ของยอดขายรวม
3. กลุ่มน้ำ น้ำอโรเวร่า โกจิเบอร์รี่ น้ำมะพร้าว กลุ่มนี้ ไม่มีกำไร สอดายอยู่ที่ประมาณ 1.5% ของยอดขายทั้งหมด
4. อาหารสำเร็จรูป แกงกระป๋อง 1.2% ของยอดขาย
5. กลุ่มซื้อมาขายไป เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยว ผักผลไม้กระป๋อง  6.1 เปอร์เซ็นต์ มีกลุ่มนี้ เพื่อให้เป็น One Stop
ของบริษัทมี 7 ยี่ห้อ Exotic ,Thai Pride, Flying Goose, COCO water Aloe water Goji water COCO LOTO



 เราขายของให้กับดิสทริบิวเตอร์มากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ดิสบิวเตอร์ จะไปวางขายให้กับห้างค้าปลีกอีกที ทำให้สินค้าของเรามีวางอยู่มากกว่า 5,000 outlet ทั่วโลก การออกงานแสดงสินค้าปีละ 12-15 ครั้ง เป้าหมายของลูกค้าใหม่ 1 คนต่อหนึ่งงาน
 เริ่มทำออนไลน์มาร์เกตติ้ง ได้ปีสองปี เน้นสร้างแบรนด์ สร้างคอมมูนิตี้ ช่วยเพิ่มยอดขายได้ค่อนข้างดี

 ทวีปยุโรปยอดขาย 84% อเมริกา 2%  อัฟริกา 1% ออสเตรเลียกับหมู่เกาะแถวนั้น 6% เอเชีย 5.8%

2018 มีนิวมาร์เกต จีน, มัลดีฟ, เมียนม่า ไต้หวัน ออสเตรเลีย ฟิจิ บัลแกเลีย เชค ไซปรัส นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ รัสเซีย สเปน อิสราเอล อาร์เจนติน่า แคนนาดา

New product ศรีราชาวาซาบิ, ศรีราชาแบลคเอ้าท์ (เผ็ดมาก)

ยอดขายตามน้ำหนัก
 2017  : 13,500 ตัน
 2018  : 15,000 ตัน

2018 ส่งออกเป็นเงินบาท 56%, usd 35% , uro 9%

ที่ขายเป็นเงินบาทได้เพราะขายแบรนด์ตัวเองเป็นหลัก ทำให้เรามีกำลังต่อรอง  บ.จะขายแบรนด์ตัวเองไม่ต่ำกว่า 85% แต่ตอนนี้อยู่ที่ 91%

สินค้าซอสปรุงรส เป็นสินค้าที่มี GP สูงสุดของ บ.
วัตถุดิบหลัก น้ำตาลและกระเทียม
2018 เป็นปีแรกที่ใช้โรงงานใหม่ที่อมตะซิตี้เต็มปี

ถ้าปี 2019 สามารถรักษา product Mix ได้ที่ระดับนี้ คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะอยู่ที่ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์บวกลบนิดหน่อย

ค่าใช้จ่ายในการขายในปี 2018 อยู่ที่ 6.6 เปอร์เซ็นต์ ในอนาคตคาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับนี้หรือถ้าเพิ่มขึ้นก็อาจจะไม่เกิน 7 เปอร์เซ็นต์
ROE 34.4% ROA 25.3%

2019 OUTLOOK บริษัทตั้งเป้าจะโต 10-15 เปอร์เซ็นต์  3 ปีที่แล้วปรับราคาลูกค้า 1.5 ถึง 6.5 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ได้มาประมาณ 2-3 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ที่ปรับขึ้นราคา มีการปรับสกุลเงินที่ขายจากเงิน US เป็นเงินบาท ซึ่งจะส่งผลดีต่อ q1 Q2 ปีนี้  (2019) เพราะ q1 Q2 ปีที่แล้วยังไม่ได้ปรับ
ราคาของวัตถุดิบ มีการล็อกเอาไว้ยาวเลยได้อานิสงส์ ว่าได้กำไรสูงขึ้น fix น้ำตาล ไปจนถึง First half 2020 กระเทียมพริกได้จนถึง Second half ปี 2020
Target gp 2019 ที่ประมาณ 40% + -

เราจะมีรายได้เป็นเงินบาท 70 ถึง 75 เปอร์เซ็นต์ใน Q2 2019

เราจะขายลูกค้าเดิมเพิ่มขึ้น เราจะหาลูกค้าใหม่เพื่อเพิ่มยอดขาย เราจะเพิ่มสินค้าใหม่ขายลูกค้าใหม่ ตลาดซอสปรุงรสทั่วโลก ใหญ่มากๆ และแบรนด์ใหญ่จริงๆเพราะขายเยอะมากๆ เราเทียบกับเขาแล้วเรายังไปไม่ถึงไหนเลย Outlet ที่เรามีอยู่หลาย Outlet ยังสามารถเพิ่มยอดขายได้อีก ถ้าเราสามารถย้าย Section ได้เราก็สามารถเพิ่มยอดขายได้ซึ่งบริษัทก็พยายามทำอยู่ ซึ่งเราเคยทำอย่างนี้มาแล้วที่ประเทศนิวซีแลนด์ ปีที่ยอดขายน้ำจิ้มไก่เพิ่มขึ้น 200-300 เปอร์เซ็นต์   by joe789

 ปี 2019 กำไรคาดว่าจะเบรคไฮอีก
 4-5 ปีที่ผ่านมาอาหารญี่ปุ่นมาแรง ณตอนนี้อาหารไทยเริ่มมา อาหารไทยเริ่มเข้า mainstream Media แล้ว เพราะเทรนด์ของคนทั่วโลกชอบกินอาหารที่ Healthy มากขึ้น อาหารไทยจะเป็น The Next Mega Trend
 Kitchen of the world รัฐบาลไทยส่งเสริมอาหารไทยมาทุกยุคทุกสมัย นักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกปี จะทำให้รู้จักอาหารไทยมากขึ้น  เราเป็น One Stop brand และเรามี certificate มากมายทำให้สามารถนำสินค้าเข้าซุปเปอร์ต่างๆได้

สินค้าใหม่ๆที่บริษัทออกยอดขายจะไม่ได้มาทันทีแต่จะค่อยๆโต มีคุยกับลูกค้าที่จะทำโปรเจคใหม่ๆในการเพิ่มยอดขาย

ลูกค้ามีหลายเจ้า การสั่งของของลูกค้าแต่ละช่วงจะไม่เหมือนกัน เวลาสั่งจะสั่งเป็นล็อต บางคนจะสั่งช่วงนี้เยอะบางคนจะสั่งช่วงนั้นเยอะ อย่างเช่นฝรั่งเศสชอบทำ Chinese new year promotion  เพราะฉะนั้นใครที่ขายไปฝรั่งเศส ก็ต้องการทำโปรโมชั่นอันนี้ส่วนคนที่ขายในประเทศอื่นเขาก็จะไม่สนดังนั้นเวลาสั่งออเดอร์บางทีก็จะมาพร้อมกันเยอะแยะบางครั้งก็จะมาน้อยหน่อยดังนั้นถ้าจะอยู่ดูยอดขายของบริษัทน่าจะดูแบบทั้งปี ปีชนปี แต่ถ้าจะดูเป็นรายไตรมาสต้องโตอาจจะไม่ใช่แนวของบริษัทเรา

กฎหมายแรงงานที่เพิ่มจาก 300 วันเป็น 400 วันตั้งสำรองเพิ่ม 2.5 แสนบาท ค่าแรงของพนักงาน พี่เป็นของบริษัทเราไม่รวมเอาซอสทั้งในส่วนของโรงงานและในส่วนของออฟฟิศ อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านถึง 120 ล้านบาท

ปีนี้คิดว่าจะไปที่ยุโรป Eastern Europe  เพราะว่าเราเคยขาย Western ยุโรปค่อนข้างเยอะแล้ว  70-80 เปอร์เซ็นต์ ยกตัวอย่างประเทศโปแลนด์ มีประชากรประมาณ 70 ล้านคน คล้ายๆประเทศเยอรมันมีแต่ที่เยอรมันนีเราขายดีมาก และวิธีทานอาหารคล้ายๆกัน คือทางโปแลนด์และเยอรมันกินอาหารรสชาติของจะเกิดข้างๆจืดๆ
ไปปีที่แล้ว ออสเตรเลีย เริ่มขายดี
ยอดขายส่วนใหญ่ 97.5 เปอร์เซ็นต์มาจากลูกค้าเก่าและเป็นลูกค้าใหม่เพียง 2.5%
ส่วนใหญ่ลูกค้าเราจะขายอยู่ในประเทศเขาเพราะเขาเป็นดิสทริบิวเตอร์อยู่ในประเทศเขา บางทีอาจมีการส่งขายไปยังประเทศอื่นที่ไม่สามารถ Import เองได้บ้าง เวลาเขาสั่งไปเพิ่มขึ้นนั่นแปลว่าเขามี point of sale เพิ่มขึ้น หรือยอดขายในปทเขาเพิ่มขึ้น

ที่โรงงานใหม่เราแทบไม่มีแรงงานที่เป็นรายวันเลย เป็นแรงงานเป็นเงินเดือน ทำให้อัตราการเทิร์นโอเวอร์ต่ำลงมาก รับเป็น skill worker ทั้งหมด turn over Rate จาก 20 กว่าเปอร์เซ็นต์ลดเหลือ 2-3 เปอร์เซ็นต์ การที่พนักงานอยู่นานมีการเรียนรู้การทำงานมี Learning Curve ทำให้ overall activity ของเราดีขึ้นไม่ต้องสอนงานใหม่ตลอดเวลา

อเมริกาเรามีไปงาน trade fair ปีละ 2-3 รอบ เราก็พยายามอยู่ วันหนึ่งเราก็จะต้องขายได้เหมือนกับหลายๆประเทศที่เราพยายามไปแล้วเราไปจนขายได้

เงินที่ได้จาก xo w1  ที่ออกไปเมื่อ 3 ปีที่แล้วตอนแรกตั้งใจจะไปทำ Due M&A แต่ดิวนั้นก็ไม่สำเร็จ ก็จะนำเงินนั้นเอาไว้ลงทุนในโรงงานเพิ่ม

เราไม่อยากซื้อกิจการเพียงแค่เพราะว่าอยากซื้อ แล้วให้มานั่งตามแก้ปัญหาทีหลัง

ตอนนี้มีไปทำโรงงานชั่วคราวดองพริกอยู่ที่จังหวัดสุโขทัยซึ่งเป็นแหล่งพริกที่ออกที่สุโขทัยเลยเพิ่งเริ่มทำไป รอให้จบหน้าฤดูพริกก่อนถึงจะเห็นผลงาน เล่าให้ฟังอีกทีนึงใน of Day ครั้งหน้า

Line Pet ใหม่ที่ลงที่อมตะลงเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว เริ่มตรวจระบบต่างๆไปแล้วเริ่มมีส่งออกแล้วในเดือน 3 นี้กำลังจะทดลองผลิตสินค้าอื่นเพิ่มขึ้นเราค่อยๆทำทีละตัวสองตัวเพื่อให้ stable

จะขายคาดว่าจะเติบโต 10 ปี 15 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ส่วนกำไรถ้าจะเติบโตเกินกว่า 15% คาดว่าจะทำได้ไม่น่าจะยาก

ปีที่แล้วมีค่าใช้จ่ายจากการใช้กำลังการผลิตไม่ถึงเป้าอยู่ประมาณ 16 ล้านบาท  ถ้าโรงงานใหม่มีกำลังการผลิตเกิน 80% ค่าเสื่อมราคาเกี่ยวกับโรงงานก็จะดีขึ้นตามไปด้วย

บริษัทเปิดมา 20 ปียอดขายเคยตก 2 รอบ ครั้งแรกตกเพราะเราขาย oem เยอะ แต่พอขอต่อราคาแล้วเราไม่ให้ยอดขายก็ตก ครั้งที่ 2 คือยุโรปเข้าสู่ช่วง  recession  ถ้าเป็นเพราะเราขาย retail เยอะ ทำให้ยอดขายตกไม่มาก จริงๆแล้วถ้า GDP ไม่ดียอดขายและอาจเพิ่มขึ้นก็ได้ คือทางที่ควรจะไปกินตามร้านก็จะซื้อมาปรุงอาหารทานเองมากขึ้น

อาจจะมีการตั้งสำรองด้อยค่า เครื่องจักรของเครื่องดื่ม ในกรณีที่เราไม่ทำเครื่องดื่มแล้ว ถ้าจะต้องมีการตั้งสำรองจริงๆคิดว่าไม่เกิน 5 ล้านบาท เราจะเลิกโฟกัสน้ำเราจะขายซอสเป็นหลัก

สินค้าเราไปเข้าทาง Tesco UK เยอะขึ้น ทุก Format Tesco มีประมาณ 3000 Outlet ที่ UK  แล้วเขาได้ถึงประมาณ 50-60% น้องสาขาเข้าได้หลาย sku บางสาขาก็ sku เดียว

สินค้าเรามีอยู่ประมาณ 700 SKU
Top 5 ของดิสทริบิวเตอร์ ทำยอดขายให้เราประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์

ขนาดจีนตอนนี้ยังขายน้อยมากยังไม่ถึง 0.5% เลยยังมีคุยกันอยู่และยังพยายามทำอยู่ คาดว่าในตลาดจีนปีนี้น่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นได้ ตลาดจีนเน้นขอราคาถูกๆก่อนเลย แล้วมีแผนกเซลล์อยู่ 4 คนมีอยู่ 2 คนคุยอยู่