วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2568

หลักคิด 53

 เงินต้นคือชีวิตของนักลงทุน อย่าให้มันหาย ไม่มีเงินต้นก็เป็นนักลงทุนไม่ได้


กฎข้อแรก อย่าเสียเงินต้น กฎข้อสอง อย่าลืมกฎข้อแรก”

ฟังดูเหมือนง่าย แต่นี่คือหัวใจสำคัญที่สุดของการลงทุน


ลองคิดดูนะ ถ้ามีเงิน 100,000 บาท แล้วขาดทุนไป 50% จะเหลือเพียง 50,000 บาท แต่ถ้าอยากได้เงินคืนเป็น 100,000 บาท ต้องทำกำไร 100% จาก 50,000 บาท  ซึ่งยากกว่ามาก!


สิ่งที่ควรทำ

 เลือกลงทุนในสิ่งที่มีความเสี่ยงต่ำ มั่นคง

 อย่าเสี่ยงเงินทั้งหมดในที่เดียว

 ถามตัวเองก่อนลงทุนทุกครั้งว่า “ถ้าขาดทุน จะรับได้ไหม?”


**********


“Don’t marry your trades. Marry your discipline.”


อย่ายึดติดกับสินทรัพย์ที่เทรด แต่ให้ยึดติดกับการมีวินัย 


*********


ขึ้นก็ถือต่อ ลงถึงจุดนึงก็ขาย 

ทำตามหลักการอย่างมีวินัย 

ก็เท่านั้นเอง 


ไม่ใช่นอสตร้าดามุส

ไม่ใช่แม่หมอ 

ไม่สามารถรู้อนาคตได้ 

จึงทำได้แค่เกาะเทรนด์ 

😊😊😊


*********


ความมั่งคั่งเกิดจากวินัย ไม่ใช่โชค

เรื่องนี่ไม่ได้ซับซ้อน แต่ต้องใช้วินัย ความอดทน และความมุ่งมั่น ในการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง


ความมั่งคั่งที่แท้จริงไม่ได้สร้างข้ามคืน แต่สร้างทีละนิดทุกวัน ด้วยการตัดสินใจที่ดี ด้วยความรู้ที่สะสม และด้วยเวลาที่ให้มันเติบโตไปเรื่อยๆ


เริ่มต้นวันนี้ เพราะวันที่ดีที่สุดในการปลูกต้นไม้คือ 20 ปีที่แล้ว แต่วันที่ดีที่สุดอันดับสองคือวันนี้


***********



ปู่บัฟเฟตต์อ่านหนังสือวันละ 500 หน้า ปู่บอกว่า “ความรู้สะสมได้เหมือนดอกเบี้ยทบต้น”


ยิ่งคุณรู้มาก คุณก็ตัดสินใจได้ดีขึ้น ยิ่งตัดสินใจดี ผลลัพธ์ก็ดีตาม และที่สำคัญ ไม่มีใครแย่งความรู้จากคุณไปได้


- อ่านหนังสือเกี่ยวกับการเงิน การลงทุน เศรษฐศาสตร์


- ติดตามข่าวสารและเทรนด์ใหม่ๆ


- เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเองและคนอื่น


******



ถ้าไม่หาทางให้เงินทำงานแทนคุณ คุณจะต้องทำงานไปตลอดชีวิต


รายได้แบบพาสซีฟ หมายถึง เงินที่ไหลเข้าเป็นประจำต่อเนื่อง เช่น

- ผลกำไรจากกิจการส่วนตัวที่อยู่ตัวแล้ว

- เงินปันผลจากหุ้น

- ค่าเช่าจากอสังหาริมทรัพย์

- ดอกเบี้ยจากเงินออม


เริ่มสร้างกระแสเงินสดที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง


ลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ


เพิ่มช่องทางรายได้มากกว่า 1 ช่องทาง



*********




สำหรับการลงทุน  ซื้อเมื่อคนอื่นกลัว ขายเมื่อคนอื่นโลภ

ตอนที่ตลาดหุ้นตก ทุกคนตื่นตระหนก ขายหุ้นทิ้งหมด แต่ปู่บัฟเฟตต์กลับซื้อเพิ่ม


ทำไม? เพราะในช่วงวิกฤต หุ้นดีๆ ถูกขายในราคาถูกลง เหมือนไปซื้อของแบรนด์เนมลดราคา 50% นั่นเอง (เรื่องนี้สาวๆจะเข้าใจดี😆)


อย่าตื่นตระหนกเมื่อตลาดตก

ใช้โอกาสนี้เก็บหุ้นดีๆ ในราคาที่ถูกลง

มองระยะยาว ไม่ใช่ระยะสั้น



*********



“ดอกเบี้ยทบต้น” หรือพลังแห่งการเติบโตแบบทวีคูณ


สมมติคุณลงทุน 10,000 บาท ได้ผลตอบแทน 10% ต่อปี

ปีที่หนึ่ง 11,000 บาท

ปีที่สิบ  25,937 บาท

ปีที่สามสิบ 174,494 บาท

จากเงินต้นแค่ หมื่นเดียว 


เห็นไหมว่าเวลาคือเพื่อนที่ดีที่สุดของนักลงทุน


เริ่มลงทุนตั้งแต่วันนี้ ไม่ต้องรอให้มีเงินเยอะ


อย่าถอนเงินกลางทาง ปล่อยให้มันทำงานต่อเนื่อง


มีวินัยและความอดทน



*********



ลงทุนในสิ่งที่เข้าใจจริงๆ เท่านั้น


ปู่บัฟเฟตต์เคยปฏิเสธการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่ง ไม่ใช่เพราะมองว่าไม่ดี แต่เพราะเขาไม่เข้าใจธุรกิจพวกนั้นจริงๆ


การลงทุนไม่ใช่การเดาหรือทายผล ถ้าคุณไม่สามารถอธิบายได้ว่าบริษัทนี้ทำเงินได้ยังไง ขายอะไร หรือมีจุดแข็งอะไร แสดงว่าคุณกำลังเสี่ยงโดยไม่จำเป็น


เริ่มจากธุรกิจที่คุณคุ้นเคย เช่น ร้านอาหาร ค้าปลีก สินค้าอุปโภคบริโภค


ศึกษาให้เข้าใจก่อนลงทุนทุกครั้ง


อย่าไหลตามกระแสหรือคำแนะนำของคนอื่นโดยไม่คิด



********



เงินต้นคือชีวิตของนักลงทุน อย่าให้มันหาย ไม่มีเงินต้นก็เป็นนักลงทุนไม่ได้


กฎข้อแรก อย่าเสียเงินต้น กฎข้อสอง อย่าลืมกฎข้อแรก”

ฟังดูเหมือนง่าย แต่นี่คือหัวใจสำคัญที่สุดของการลงทุน


ลองคิดดูนะ ถ้ามีเงิน 100,000 บาท แล้วขาดทุนไป 50% จะเหลือเพียง 50,000 บาท แต่ถ้าอยากได้เงินคืนเป็น 100,000 บาท ต้องทำกำไร 100% จาก 50,000 บาท  ซึ่งยากกว่ามาก!


สิ่งที่ควรทำ

 เลือกลงทุนในสิ่งที่มีความเสี่ยงต่ำ มั่นคง

 อย่าเสี่ยงเงินทั้งหมดในที่เดียว

 ถามตัวเองก่อนลงทุนทุกครั้งว่า “ถ้าขาดทุน จะรับได้ไหม?”



*********



อย่าพยายามซื้อที่ “จุดต่ำสุด” หรือขายที่ “จุดสูงสุด”


ไม่มีใครจับจังหวะตลาดได้เพอร์เฟค คนที่อ้างว่าทำได้ มักไม่พูดความจริง 


ควรพอใจเมื่อได้ผลตอบแทนที่ดีในระดับเหมาะสม มากกว่าการไล่ล่าความสมบูรณ์แบบ



********



เงินจำนวนมากมาจากการนั่งรอผ่านการเคลื่อนไหวระยะยาว ไม่ใช่การเทรดตลอดเวลา เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ถูกเขย่าออกเร็วเกินไป



*******



ความสำเร็จไม่ได้มาจากพรสวรรค์ แต่มาจากความพยายามที่คนอื่นมองไม่เห็น



********