ไม่ว่าราคาหุ้นจะเป็นเท่าไร ถ้าจำนวนหุ้นเท่าเดิมสัดส่วนความเป็นเจ้าของก็ยังเหมือนเดิมและเงินปันผลก็ยังได้ตามสัดส่วนเดิม
ถ้าคุณเปิดบริษัทโดยลงทุนไป 5 ล้านบาท โดยที่บริษัทมีกำไร ปีละ 6 แสนบาท แล้วแบ่งจ่าย ปันผลปีละ 300,000 บาท หรือเท่ากับปันผลวันละ 821 บาท และแนวโน้มยังเป็นอย่างนี้หรือมากกว่านี้ต่อเนื่องไปได้อีกเป็น 10 ปี
พูดง่ายง่ายคือคุณได้เงินปันผล “วันละ 821 บาท” และสามารถรับต่อเนื่องได้อีก 10 ปีเป็นอย่างน้อย
อยู่ดีๆมีคนมาขอซื้อ กิจการจากคุณในราคา 3 ลบ คุณจำเป็นต้องขายไหม ???
คุณจำเป็นต้องขายกิจการในราคาที่ขาดทุนสองล้านบาท หรือคุณจะเลือกรับปันผลวันละ 821 บาทต่อเนื่องไปอีกเป็น 10 ปีและอาจรับต่อเนื่องได้นานกว่านั้นโดยโดยที่อาจมีคนมาขอซื้อกิจการคุณในราคาที่มากกว่า 5 ลบในอนาคตอีกด้วย ???
เงินปันผล คือ ส่วนสำคัญอย่างนึง
*****
เมือคุณซื้อที่ราคาแพงเกินไป และมากเกินไป จะส่งผลให้คุณไม่สามารถถือสถานะได้นานอย่างที่คิดไว้ในตอนแรก
นั่นอาจทำให้การตัดสินใจขายอย่างผิดพลาดตามมา ขายผิดราคา ผิดเวลา และเมื่อราคาหุ้นขึ้นคุณก็จะยึดติดกับราคาที่เคยขาย ทำให้คุณไม่กล้าซื้อ และพลาดรอบขาขึ้นไปอีกรอบ
เรียกว่าโดนสองเด้ง ทั้งขาลงที่ขายขาดทุนและพลาดขาขึ้นทำให้อดได้กำไรที่ควรจะได้
*****
จะประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้นถ้าลงทุนในสิ่งที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงมีวินัยไม่ก้าวออกจากความเชี่ยวชาญที่มี
และเพิ่มขอบเขตความเชี่ยวชาญก่อนที่จะขยายการลงทุน
*****
มีคนถามผมว่าผมไม่ชอบหุ้นเติบโตบ้างหรือ
ชอบสิครับ ทำไมจะไม่ชอบ ใครใครก็ชอบหุ้นเติบโตทั้งนั้น แต่ผมจะซื้อก็ต่อเมื่อสามารถซื้อหุ้นเติบโตได้ในราคาถูกและความเสี่ยงต่ำเท่านั้น
แต่ถ้าให้จ่ายเงินแพงๆ เพื่อซื้อหุ้นโดยคาดหวังว่าจะได้การเติบโตที่สูงในอนาคต ผมไม่ซื้อครับ
ผมชอบเนื้อในมือ มากกว่าน้ำบ่อหน้าครับ
แม้เนื้อจะชิ้นเล็กและน้ำจะมากกว่าก็ตาม ผมก็ยังชอบเนื้อในมือมากกว่า
@@@@@@@@
การลงทุนใดๆที่มีอยู่ในพอร์ตแล้วไม่เข้ากับหลักเกณฑ์ แม้ว่ามันจะเข้ากับหลักเกณฑ์ในตอนแรกก็ตามแต่ถ้าในภายหลังมันไม่เข้ากับหลักเกณฑ์ นั่นคือการลงทุนที่ผิดพลาด ควรที่จะแก้ไขทันที โดยไม่สนใจ sunk cost
@@@@@@@@@
ในคนที่ใช้กระแสเงินสดอิสระเพื่อคำนวณมูลค่าหุ้นโดยหากระแสเงินสดอิสระแบบตรงตรงตามสูตรโดยที่ไม่ได้เข้าใจถึงโมเดลของบริษัทอาจทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนเป็นอย่างมากได้
นลท จำนวนไม่น้อย ใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานคำนวนหากระแสเงินสดอิสระ
พอกระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบเอามาคำนวณก็จะกลายเป็นติดลบกันไปหมด
เนื่องจากกระแสเงินสดอิสระจะต้องหักออกด้วย งบลงทุนเพื่อการ บำรุงรักษาเครื่องจักรหรือ“สินทรัพย์เดิม” ให้มีสภาพที่สามารถใช้งานเพื่อผลิตกระแสเงินสดได้ (ไม่รวมงบเพื่อการลงทุนใหม่เพิ่มเติม)
แต่ในบางธุรกิจงบลงทุนเพื่อรักษาทรัพย์สินเดิมอาจจะไปปะปนอยู่กับงบลงทุนใหม่แบบแยกไม่ออก
เมื่อธุรกิจกำลังอยู่ในช่วงขยายตัวซึ่งต้องขยายขยายการลงทุนใหม่ ทำให้กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ติดลบ
เพราะ กระแสเงินสดจากการดำเนินงานจะถูกหักลบ ด้วยค่าใช้จ่ายต่างๆทั้งหมดที่เป็นเงินสด รวมถึงเงินลงทุนเพื่อการขยายงานด้วย (ไม่ใช่เฉพาะงบเพื่อการ maintain ทรัพย์สินเดิมเท่านั้น)
และนี่แหละคือจุดบอดที่นักลงทุนส่วนมากหาไม่เจอ
ตัวอย่างเช่นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หากอยู่ในช่วงขยายตัวจะเปิดโครงการใหม่เพิ่มขึ้นมากทำให้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบ และอาจส่งผลให้กระแสเงินสดอิสระติดลบจากการคำนวณที่ผิดพลาดได้ (เพราะนักลงทุนจำนวนมากใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงานเป็นตัวตั้งต้นในการหากระแสเงินสดอิสระ)
ซึ่งตามหลักแล้ว ในบริษัทที่มีผู้บริหารที่เชี่ยวชาญจะรู้ว่าควรขยายโครงการเพิ่มในช่วงไหน เพื่อรองรับอนาคตช่วงถัดไป เนื่องจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องใช้เวลาระยะเวลาดังนั้นผู้บริหารจึงต้องมีการคาดการณ์ล่วงหน้า โดยที่ในปัจจุบันเศรษฐกิจอาจยังไม่ได้ดีมากแต่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวในอนาคต เมื่อเศรษฐกิจเศรษฐกิจปัจจุบันไม่ได้ดีมากกระแสเงินสดปัจจุบันอาจจะไม่ได้มากแต่มีความจำเป็นต้องขยายโครงการเพื่อรองรับอนาคตนี่คือที่มาของกระแสเงินสดจากการดำเนินงานติดลบได้ ซึ่งมันจะส่งผลในช่วงถัดไปเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวโครงการพร้อมเสิร์ฟให้ลูกค้ากระแสเงินสดจะหลั่งไหลเข้ามาอย่างท่วมท้น
@@@@@
เวลาเห็นหุ้น IPO ที่มีรายชื่อเซียนเทรดหุ้นชื่อดัง ควรจะหลีกหนี ไม่ใช่เข้าหา เพราะ เซียนเทรดหุ้นที่ชื่อดังและพอร์ตใหญ่ คือการการันตีแล้ว ว่าเขากินเงินรายย่อยมามากแค่ไหน ดังนั้นควรจะเล่นคนละเวทีกับเค้า หรือ ถ้าบนเวทีเดียวกันต้องมั่นใจว่ามีต้นทุนที่ถูกกว่าเท่านั้น (เทรดไม่ใช่ลงทุน)
เทรดเดอร์หลายคนพอเห็น เซียนเทรดหุ้นชื่อดังมีหุ้นตัวไหนก็กระโดดเข้าตาม โดยไม่สนใจเลยว่าต้นทุนของเขาคือเท่าไหร่และของตนเองคือเท่าไหร่
เซียนเทรดไม่ใช่นักลงทุน
เซียนเทรดพอร์ตใหญ่ได้เพราะ "กินเงินรายย่อย" เป็นหลัก
ส่วนนักลงทุนจะเติบโตตามธุรกิจที่เติบโตเป็นหลัก
รายย่อยที่จะโดนเซียนเทรดกินเงินได้ คือ รายย่อยที่เล่นบนเวทีเดียวกับเขาเท่านั้น (ซื้อหุ้นตัวเดียวกับเขา และต้นทุนในมือแพงกว่าเขา)
ถ้ารายย่อยเล่นคนละเวทีหรือมีต้นทุนถูกกว่า เซียนเทรดหุ้นจะกินเงินรายย่อยไม่ได้
เทรดเดอร์รายย่อยต้องปรับมุมมองใหม่ ต้องปรับการตีความข่าวให้ถูกต้อง
จากหุ้นที่มีเซียนเทรดชื่อดังถือแล้วน่าคิดว่าสนใจ เป็น หุ้นตัวไหนที่มีเซียนเทรดชื่อดังถือ ให้ระวังให้มากเป็นพิเศษ
@@@@@@
หนึ่งในข้อผิดพลาดที่นักลงทุนจำนวนไม่น้อยมักจะทำผิด คือการคิดว่าหุ้นวัฏจักรคือหุ้น growth แล้วซื้อในช่วงที่ดีของธุรกิจเพื่อลงทุนระยะยาว
@@@@@@@
ชอบมีคนถามว่า มีหุ้นดีแนะนำบ้างไหม
เรามักไม่ตอบ เพราะคำว่าหุ้นดีของคนทั่วไป มักหมายถึง ซื้อแล้วราคาวิ่งขึ้น
แต่หุ้นดีของเราคือธุรกิจดีโดยที่ราคาอาจไม่ไปไหนได้เป็นปีๆ ดังนั้นคำตอบของเรา กับที่คนส่วนมากคาดหวังมักไม่ตรงกัน
ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้ คือ ไม่ตอบดีกว่า ขี้เกียจอธิบายเยอะ
@@@@@@
ถ้าคุณยอมซื้อหุ้นพีอีมากกว่า 40เท่า ไม่ว่ามันจะเติบโตแค่ไหน
สุดท้ายแล้ว การซื้อของคุณจะทำให้คนที่มีหุ้นอยู่ก่อนรวยจากการซื้อของคุณ แต่คุณไม่รวยจากการซื้อของคุณ
ปล. หลักการนี้ใช้ไม่ได้กับหุ้นวัฎจักร และหุ้นเทิร์นอะราวด์
*******
เนื่องจากมีคนถามถึงมุมมองของการเติบโตของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
จุดเด่นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- ต้นทุนเงินทุนต่ำกว่าบริษัทอสังหาที่อยู่นอก ตลท
- ทำโครงการได้จำนวนมากมากกว่าส่งผลให้มีความประหยัดต่อขนาดมากกว่าทั้งในด้านของการออกแบบ แล้วใช้ต่อจำนวนยูนิตที่มากกว่า ทั้งวัตถุดิบต่างๆ ที่สั่งในปริมาณมากและได้ราคาที่ถูกกว่า ยังรวมไปถึงประหยัดค่าใช้จ่ายในด้านการขาย เมื่อเทียบจำนวนเซลล์ต่อยอดยูนิตรวม
- เซลล์เก่งๆก็อยากที่จะอยู่กับบริษัทใหญ่มากกว่าเนื่องจากมีสวัสดิการและโบนัสที่สูงกว่า ที่ดึงดูดกว่า
- ในแง่ความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีให้ต่อโครงการ บริษัทใหญ่ก็มีความได้เปรียบกว่า
- ลูกค้ากู้กับธนาคารเพื่อซื้อโครงการจากบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารก็ปล่อยกู้ได้ง่ายกว่า
หากดูจากมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยทั้งประเทศของปี 2565 มีจำนวน 1,065,000 ล้านบาท
ในขณะที่รายได้ของ 16 บริษัท พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีรายได้ปี 2565 รวมเพียง 309,700 ล้านบาทเท่านั้น คิดเป็นประมาณ 30% ของมูลค่าการโอนอสังหาทั้งประเทศ
และหากมองเข้าไปในราย บริษัทก็จะเห็นว่าอันดับหนึ่งคือเอพีมีรายได้เพียง 49,000 ล้านบาทเท่านั้นเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดรวมที่มีสูงถึง หนึ่งล้านล้านบาท
ดังนั้นการกินมาร์เก็ตแชร์เพื่อเติบโตนั้น ยังสามารถทำได้ต่อเนื่องอีกยาวนาน โดยอาศัยจุดเด่นดังที่กล่าวมาแล้ว
หมายคนอาจไม่ทราบบริษัทพัฒนาอสังหาแม้จะพัฒนาโครงการ ที่อยู่อาศัยมือหนึ่งแต่ก็มีบริษัทลูกที่ทำการซื้อขายแลกเปลี่ยนบ้านมือสองด้วย รวมถึงหลายบริษัทก็มีการตั้งบริษัทลูกเพื่อทำนิติบุคคลเพื่อดูแลโครงการของหมู่บ้านหรือคอนโดด้วย
ซึ่งการลงทุนในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นั้นส่วนตัวก็ชอบที่จะลงทุนในบริษัทใหญ่ ที่อยู่ใน 5-10 อันดับแรกของตลท ซึ่งบริษัทจะมีความได้เปรียบมีจุดเด่นอย่างครบถ้วนในทุกๆด้าน
อาชีพนักลงทุน เป็นอาชีพที่จะค่อยๆปรับมุมมองของตัวคุณ ให้ระแวดระวังความเสี่ยงมากขึ้น มองสิ่งรอบตัวอย่างสงสัยมากขึ้น คิดมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับตัวคุณเองในอดีต
และเมื่อถึงจุดหนึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับคนส่วนมากโดยรวมแล้ว คุณจะรู้สึกถึงความแตกต่าง ในด้านมุมมองของความเสี่ยง อย่างเห็นได้ชัด
*****
นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ดูออกว่าผู้บริหารคนไหนที่เข้าตลาดเพื่อจะมาโกง เพื่อจะมา กวาดเอาเงินจากผู้ถือหุ้นรายย่อย
แต่ก็อดเข้าไปร่วมวงไม่ได้เพราะราคาตลาดที่มันกระชากขึ้นกระชากลงมันดึงดูดใจ
สุดท้ายก็กลายเป็นเป็นแมงเม่า บินเข้ากองไฟ