การแบ่งเงินออมเพื่อลงทุนนั้นเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า “ต้องทำ”
แต่บางครั้ง คนเราอยากได้สิ่งของฟุ่มเฟือยบ้าง อยากท่องเที่ยวบ้าง
มีกฎนึง ที่อยากแนะนำให้ทำ
ทุกครั้งที่ซื้อของหรูหรือของไม่จำเป็น หรือท่องเที่ยว “ให้ลงทุนในจำนวนเท่ากันเสมอ”
เช่น เที่ยวยุโรป 300,000 จะต้องกันเงินอีก 300,000 ไปลงทุนก่อนเที่ยวเสมอ
**********
สองสิ่งที่ นลท มักจะทำพลาด
1. ซื้อเร็วเกินไป และขายช้าเกินไป
2. ซื้อช้าเกินไป และขายเร็วเกินไป
**********
เราไม่ได้มองสิ่งต่างๆอย่างที่มันเป็น แต่เรามองเห็นสิ่งต่างๆอย่างที่เราอยากให้เป็น
กราฟหุ้นก็เช่นกัน ดังนั้นต้องระวังอคติของเราให้ดี และมันมักจะมาในแบบที่เราไม่รู้ตัว
**********
เคยถามตัวเองบ้างไหม สมมติเกิดเหตุการณ์ black swan (long tail) หลังตลาดหุ้นปิด แล้วเปิดมาตลาดหุ้นดิ่งกระหน่ำ เช่น ดัชนีลดลง 25% พอร์ตจะเป็นอย่างไร มีแผนรับมือหรือไม่อย่างไร 😊
มันเป็นเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบหนักมากที่คนส่วนใหญ่มองข้าม ไม่เคยวางแผนรับมือ จริงๅแล้วไม่เคยคิดถึงด้วยซ้ำไป
**********
การแบ่งเงินออมเพื่อลงทุนนั้นเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า “ต้องทำ”
แต่บางครั้ง คนเราอยากได้สิ่งของฟุ่มเฟือยบ้าง อยากท่องเที่ยวบ้าง
มีกฎนึง ที่อยากแนะนำให้ทำ
ทุกครั้งที่ซื้อของหรูหรือของไม่จำเป็น หรือท่องเที่ยว “ให้ลงทุนในจำนวนเท่ากันเสมอ”
เช่น เที่ยวยุโรป 300,000 จะต้องกันเงินอีก 300,000 ไปลงทุนก่อนเที่ยวเสมอ
**********
**********
จุดเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่ มักจะแพงในความรู้สึกของคนส่วนมาก ไม่ว่าจะแพงเพราะบวกแรงมากในวันเริ่มต้นแนวโน้มใหม่ หรือแพงเพราะราคาที่มันเทียบกับ valuation ก็ตาม
แน่นอนว่า ไม่ใช่ทุกความแพงจะเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มใหม่
และนั่นคือหน้าที่ของนักลงทุน ที่ต้องแยกแยะให้ออก
11/11/2025
**********
ทำตามระบบที่น่าเบื่อแต่มีกำไรไปเรื่อยๆ อย่าพยายามดัดแปลงปรับแต่ง เพราะจะทำให้ระบบที่เสถียรอยู่แล้วมันรวนจนเกิดความเสียหายได้
ส่วนมากขาดทุนเพราะปรับแต่งจนเกินเลย จากความคิดสร้างสรรค์ที่ทำให้อยู่นิ่งไม่เป็น
**********
พ่อเราสอนตั้งแต่เรายังวัยรุ่น
เรายังจำได้เสมอ
ถ้าไม่อยากเดือดร้อน
- ห้ามยุ่งกับการพนัน
- ห้ามยุ่งกับยาเสพติด
- และห้ามค้ำประกัน
**********
ถ้าจะเก็งกำไรบนแนวโน้มราคาขาขึ้น กับของที่ไม่มีค่าแต่มีราคา แล้วต้นทุนคือราคาตลาด ต้องให้แน่ใจว่า สามารถขายได้หมด (สภาพคล่องพอ) ขายได้ทัน ไม่ค้างสต๊อกติดมือ ไม่งั้นละก็
วิกฤติฟองสบู่ดอกทิวลิปเป็นตัวอย่างที่ดี 
**********
วิธีการลดไตรกลีเซอไรด์จาก 418 เหลือ 71 ภายใน 2 เดือน โดยไม่ทานยา
เผื่อจะมีประโยชน์สำหรับคนที่อยากลดไตรกลีเซอไรด์
มีช่วงนึงที่เราทานข้าวเยอะ ตักข้าวจานละประมาณ 250-300 กรัม (ข้าวพูนจาน) ทานมื้อละสองจาน แถมชอบตุ๋นเนื้อทานเอง หม้อใหญ่ๆ ตักทานได้เรื่อยๆ ฟินสุดๆ
มีโอกาสทานนอกบ้านจะตระเวนทาข้าวมันไก่เจ้าดัง และตรงกับหน้าทุเรียน ก็จะซื้อทุเรียนเน้นลูกใหญ่ 4-5 โล ทานกับแฟนสองคน
ปกติเราเป็นคนไม่ทานของหวาน ไม่ทานผลไม้ มีเฉพาะปีนั้นที่ทานทุเรียนแล้วอร่อยเพลิน
หลังจากนั้นเจาะเลือด เจอค่า ไตรกลีเซอไรด์สูงถึง 418 (ค่าปกติห้ามเกิน 150)
เราไม่มีเบาหวาน น้ำตาลไม่เกิน น้ำตาลสะสม 5.3 เท่านั้น (ปกติห้ามเกิน 6.5)
หมอถามเลยทานยาไหม ลูกเห็นลูกบ่นไม่หยุด โวยวายใหญ่ว่าถ้าเลย 500 ตับอ่อนอักเสบ เรื่องจะยุ่งมากกกก
ผมถามว่าไตรกลีเซอไรด์ขึ้นสูงจากสาเหตุไหนได้บ้าง ได้ความว่า
- คาร์บมาก ทั้งน้ำตาลหรือแป้งก็ตาม
- แอลกอฮอล์
- ไขมันในช่องท้องสูง
ผมบอก ขอเวลาสองเดือนจะมาตรวจเลือดอีกครั้ง จะเอาให้ต่ำกว่า 150 ให้ได้
กลับมาถึงบ้านวางแผนเปลี่ยนพฤติกรรม โชคดีคือ เราไม่ดื่มแอลกอฮอล์มานานพอสมควรแล้ว เลยปรับเอาอาหารที่มีไขมันสูงออกทั้งหมด ออกกำลังกายเวทเทรนนิ่ง วันละ 90 นาทีเป็นอย่างน้อย หรือเดินให้ได้ 10,000 ก้าวต่อวัน
นับแคลลอรี่อิน และ แคลลอรี่เอ้าท์ ให้ติดลบวันละ -500 kcal โดยประมาณ
ปรับอาหารคือ
- งดของทอด เบเกอรี่ ชีสไส้กรอก แฮม เด็ดขาด
- งดเนื้อวัวเด็ดขาด งดเนื้อหมู
- งดผลไม้อันนี้สำคัญมากเพราะน้ำตาลเยอะ
- งดเนื้อไก่ (ทานอกไก่ได้ไม่เกิน 10% แต่พยายามไม่ทาน)
ทุกมื้อ ทานแต่เนื้อปลาเท่านั้น
ปรุงอาหารเองแทบทุกมื้อ วิธีในการปรุง ต้ม ย่าง grill และ เตาอบลมร้อน เท่านั้น
น้ำมันในการปรับอาหาร ใช้ น้ำมันคาโนล่า และใส่ขวดสเปรย์ ไม่มีการรินลงกระทะ
นอกจากอาหารมื้อหลักแล้ว ไม่ทานอย่างอื่นเลยยกเว้นกาแฟดำ โยเกิร์ตและนมไขมันต่ำ แต่คุมปริมาณที่ทาน
ผลคือ สองเดือน body fat ลดลงมาก และ นน ตัวลดไปประมาณ 5-6 kg
ไปเจาะเลือด ผลคือ ไตรกลีเซอไรด์ลดเหลือ 71 เน้นย้ำว่าไม่ได้ทานยา !!!
ใช้เวลาสองเดือนในการ “เข้มงวดกับการออกกำลังกาย และอาหารการกิน”
หมอบอกไม่เคยเจอคนที่ลดไตรกลีเซอไรด์ได้มากขนาดนี้โดยไม่ทานยา ลูกชมเปาะ “ทำได้ดี ทำได้ดีมาก”
ช่วงแรกๆ มีอาการวิงเวียนเวลาลุกเร็วๆ และรู้สึกหิวตลอดเวลาแม้กระทั่งเพิ่งทานอาหารเสร็จ ทำให้เรารู้ว่าสมองกำลังหลอกเรา สมองชอบกลูโคส หลอกให้เราหิวเพื่อให้เราเติมกลูโคส แต่เรารู้ทันเลยทานเป็นเวลาตามมื้ออาหารเท่านั้น ไม่ทานนอกมื้อเด็ดขาด อาการเป็นอยู่ประมาณ 4-5 วันเท่านั้น หลังจากนั้นร่างกายปรับตัวได้
เพิ่มเติม หลังจากปรับอาหารแล้วทุกมื้อทานข้าวสวย สามช้อนโต๊ะ ผัก 200 กรัม ปลา 200 กรัม
โดยประมาณต่อมื้อคือทานประมาณมื้อละครึ่งโล อิ่มทุกมื้อ
ปล ก่อนปรับอาหาร ความดันอยู่ที่ 90/128 หลังลด TG ลง นน.ตัวลดลง ความดันเหลือ 70/98 ถึง 85/105
********** **********
ลองหัดเป็นคนที่นิ่ง ช่างสังเกต ไม่ตอบโต้ต่อทุกสิ่งอย่างเร่งรีบ แต่ใช้เวลา “อ่านสถานการณ์” ก่อนพูดหรือทำอะไร
ซึ่งมันเป็นพฤติกรรมของคนที่ฉลาดและควบคุมตนเองได้ดี