วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2562

MCS

MCS

ธุรกิจของบริษัทคือการผลิตโครงเหล็กขนาดใหญ่สำหรับอาคารสูงซึ่ง 90% บริษัทส่งออกให้ผู้รับเหมารายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น วัตถุดิบหลักที่ใช้ในการสร้างโครงสร้างเหล็กคือเหล็กรีดร้อนพิเศษ ซึ่งต้องสั่งนำเข้าจากประเทศ ญี่ปุ่น  และเกาหลี

ลูกค้าของบริษัท เป็น 4 บริษัทก่อสร้างผู้นำที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่มีความทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนได้ดีกว่าคอนกรีตเสริมเหล็ก สินค้าของบริษัท ได้มาตรฐาน และสามารถผลิตได้สูงกว่ามาตรฐาน JASS 6 ( Japanese Architectural Standard  specification )

ของประเทศญี่ปุ่นและเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดตามกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น โครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่ที่บริษัทผลิตมีการใช้กันมากในประเทศที่มีแผ่นดินไหวเกิดบ่อยครั้ง ขึ้นรูปตามความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก แบบครบวงจรซึ่งจะมีแต่บริษัทใหญ่ๆในญี่ปุ่นเท่านั้นที่สามารถทำได้

บริษัทเป็นบริษัทนอกประเทศญี่ปุ่นที่ได้ส่งงานโครงสร้างเหล็กไปยังประเทศญี่ปุ่นเป็นรายใหญ่ และผลงานการผลิตเป็นหนึ่งในสิบด้าน กำลังการผลิต รายได้หลักของบริษัทประมาณ 90% มาจากกลุ่มลูกค้าในประเทศญี่ปุ่น และมีสัญญาล่วงหน้า

บริษัทมีภาระหนี้สินอยู่ในระดับที่น้อย โดยมีหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 0.36 เท่า ในปี 2561  โดยหนี้สินส่วนใหญ่เป็นเจ้าหนี้การค้าจากการสั่งซื้อวัตถุดิบ ที่ใช้ในการผลิต โครงสร้างเหล็ก

บริษัทผลิตโครงสร้างเหล็กขนาดใหญ่สำหรับโครงการก่อสร้างทั้งในและต่างประเทศโดยส่วนใหญ่ร้อยละ 90  จำหน่ายให้กับผู้รับเหมารายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก โดยโครงสร้างเหล็ก  ที่บริษัทผลิตจะนำมาประกอบขึ้นโครงสร้างขนาดใหญ่ เช่น โครงการก่อสร้างอาคารสูง โรงไฟฟ้า สะพาน  Terminal ของสนามบิน

โดยจุดเด่นคือประหยัดเวลาในการก่อสร้างลดมลภาวะในบริเวณหน่วยงานก่อสร้างและสามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้ดี งานออกแบบเพื่อใช้โครงสร้างเหล็กนั้นสิ่งสำคัญคือสามารถรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้ดีกว่าคอนกรีตเสริมเหล็ก อีกทั้งขนาดจะเล็กและเบากว่าคอนกรีต

บริษัทนำเข้าวัตถุดิบจากประเทศญี่ปุ่น เกาหลี ส่วนแบ่งตลาดของวัสดุก่อสร้างประเภทโครงสร้างเหล็กใน 5 ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 30 ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเมื่อเทียบกับวัสดุชนิดอื่นหากไม่นับรวมโครงสร้างที่เป็นไม้

ผู้ผลิตที่มีความสามารถในการผลิตให้ได้คุณภาพตามมาตรฐาน นั้น มีอยู่อย่างจำกัด การแข่งขันในประเทศญี่ปุ่นจึงอยู่ในกลุ่มของผู้ผลิตที่สามารถผลิตได้ตามมาตรฐานและเป็นไปตามเงื่อนไขกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น เท่านั้น

ผู้ผลิตโครงสร้างเหล็กในประเทศญี่ปุ่นส่วนใหญ่มีข้อจำกัดในเรื่องค่าจ้างแรงงาน เนื่องจากโครงสร้างเหล็กเป็นแรงงานที่ใช้ฝีมือในการประกอบ ที่ต้องมีทักษะและประสบการณ์ ซึ่งแรงงานประเภทนี้ในประเทศญี่ปุ่นจะมีค่าแรงที่สูงมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตที่ประเทศญี่ปุ่นสูง

ทั้งนี้ปัจจุบันมีผู้ผลิต 3 รายในประเทศญี่ปุ่นที่มีการผลิตครบวงจรเหมือนบริษัท แต่ผู้ผลิตดังกล่าวมีโรงงานตั้งอยู่ในจังหวัดที่ห่างไกลจากโตเกียว ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่มากกว่าเมืองอื่นๆ ดังนั้นผู้ผลิตดังกล่าวจะต้องส่งชิ้นงานจากแหล่งผลิตเข้ามาโตเกียว

ซึ่งค่าขนส่งในประเทศญี่ปุ่นมีต้นทุนค่อนข้างแพง นอกจากนี้การขนส่งในประเทศญี่ปุ่นสำหรับชิ้นงานขนาดใหญ่ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของถนนและสะพานบางแห่งที่ไม่สามารถรองรับได้

จะเห็นได้ว่าบริษัท MCS สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตโครงสร้างเหล็กในประเทศญี่ปุ่นได้  ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตสูงสุด 70,000 ตันต่อปีซึ่งมีนโยบายว่าต้องการทำให้มีกำลังการผลิตถึง 100,000 ตันต่อปี

วัตถุดิบในการผลิตที่สำคัญได้แก่เหล็กแผ่นรีดร้อนคุณภาพสูงโดยคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 98 ของวัตถุดิบทั้งหมดที่ใช้ในการผลิต โดยมีการนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลี

เนื่องจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะเน้นด้านคุณภาพผู้ผลิตในประเทศยังไม่สามารถผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนคุณภาพสูง ที่ใช้ในการผลิตได้ ทำให้ปัจจุบัน บริษัทต้องนำเข้าเหล็กแผ่นรีดร้อนจากต่างประเทศ ทั้งหมด 100%