วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2557

หลักคิดในการถือ position ต่อหรือออกจาก position บนช่วงเวลาที่ตลาดถึงจุดต้องเลือกทาง

หลักคิดในการถือ position ต่อหรือออกจาก position บนช่วงเวลาที่ตลาดถึงจุดต้องเลือกทาง

สมมติ มาถึง ณ จุดที่ตลาดยังเลือกทางไม่ได้ ก็จะยังมีหุ้นกลุ่มนึงที่วิ่งต่อได้ และอีกกลุ่มที่ไหลลงมา ดังนั้นแม้ตลาดจะเลือกทางไม่ได้ ก็ยังสามารถทำกำไรได้ถ้าเลือกหุ้นถูกตัว
สมมติ ช่วงตลาดยังไม่เลือกทาง แต่เราเลือกหุ้นถูกตัว ทำให้มีกำไร "ต่อพอร์ตรวม" ระหว่างนั้นสัก 2% (รายตัวอาจมีกำไรมากถึง 20% ก็ได้ แต่พูดถึงพอร์ตรวม)

การ action ของเราเลือกได้สองแบบ
1.ถอยออกมาจากตลาด รอตลาดเลือกทาง แน่นอนวิธีการนี้ จะเสียกำไรที่ "ควรได้" ไป 2% ของพอร์ตรวม  เพราะทันทีที่ตลาดเลือกทางขึ้น เราก็ follow buy

2.หากเราอยู่ในตลาดต่อแล้ว แล้วตลาดเลือกทางลง จุดคัทมันจะอยู่ต่ำลงมา อยู่ในจุดที่ภาพของตลาดเริ่มชัดเจน ว่าเลือกทางลง ในช่วงที่ภาพชัด หุ้นหลายตัวที่เรานิยมเล่นกัน จะลงแรงกว่าตลาด บางตัวบิดหาย จากประสบการณ์ ออกช้าเพียงวันเดียว DD อาจอยู่ที่ 3-5% ได้

แล้วผลต่างกันยังไงสำหรับสองวิธี
เช่น สมมติพอร์ต 1ล้าน ได้กำไรเดิมมา 10% คือ หนึ่งแสน หากทำตามวิธีที่ 1 พลาดโอกาสได้กำไรเพิ่มอีก สองหมื่น แต่รักษากำไรหนึ่งแสนไว้ได้ "แน่นอน"

หากทำตามวิธีที่สอง อาจได้กำไรเพิ่มเป็น 1.2แสน และหากตลาดเลือกทางลง กำไรอาจหดเหลือ 86,400 (DD 3%)

กรณีตลาดขึ้นต่อ
การเลือกวิธีที่ 1 พอร์ตจะเป็น กำไร 1แสน +กำไรจากตลาด Up trend +  DD จะต่ำ

ส่วนการเลือกวิธีที่ 2 พอร์ตจะเป็น กำไร 1.2แสน +กำไรจากตลาด Up trend  + DD จะสูง

อันนี้แล้วแต่คนชอบแบบไหน ไม่มีผิดไม่มีถูก

แต่จุดนึงที่ต้องคำนึงในการดูผลตอบแทน คือ ต้องเทียบกับ DD เสมอ   เช่น
1. ผลตอบแทน 50% , DD 5%
2.....ผลตอบแทน 80% ,DD 10%

ในระยะยาวแล้ว แบบที่ 1 จะสร้างผลตอบแทนรวมได้มากกว่า
การคุม DD ก็คือการรักษากำไรที่หามาได้