เกณฑ์การปันผล
หมายเหตุ
จุดที่น่าสังเกตคือ บ.สามารถล้างขาดทุนสะสมได้
หากบ.มีทุนสำรองตามกฎหมาย หรือส่วนล้ำมูลค่าหุ้น
ยกตัวอย่าง งบดุลของทรู
กรณีของ ทรู มีขาดทุนสะสม -64,815 ลบ
การล้างขาดทุนสะสม เพื่อให้จ่ายปันผลได้จะต้อง มีส่วนล้ำมูลค่าหุ้น แต่ทรูมี ส่วนต่ำมูลค่าหุ้น ดังนั้นแนวคิดเรื่องการลดทุนมาล้างขาดทุนสะสมจึงเป็นไปไม่ได้
หากเจ้าหนี้คิดค้าน จะลดทุนมิได้
และการล้างขาดทุนสะสม ทำให้จ่ายปันผลได้
แต่ ด้านเจ้าหนี้ย่อมไม่พอใจเพราะกำไรได้มาไปจ่ายปันผลแทนที่จะมาจ่ายหนี้
ซึ่งหากหนี้อยู่ในระดับปกติเจ้าหนี้ก็คงจะโอเค แต่หนี้ระดับ Net D/E 8-10 เท่า
เชื่อว่าเจ้าหนี้ไม่โอเคที่จะให้จ่ายปันผล
ต้องลดหนี้จนอยู่ในระดับปกติก่อนให้เจ้าหนี้พอใจและไม่คัดค้านก่อนครับ
วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557
วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557
วิธีการวัดผลตอบแทนของพอร์ต
วิธีการวัดผลตอบแทนของพอร์ต
กรณีที่เงินต้นคงที่ตลอดทั้งปี ก็คงวัดได้ไม่ยาก
เช่น เงินต้น 1 ล้าน ถือหุ้น 70% ก็ 700,000 และสำรองเงินสดไว้สำหรับซื้อหุ้นอีก 300,000
เลขที่ใช้เป็นฐาน ก็คือ 1,000,000 พอครบปี พอร์ตรวมเงินกลายเป็น 1,150,000
ก็จะได้ 1,150,000/1,000,000 = 15%
แต่กรณีที่ มีการใส่เงินสดเข้าพอร์ตเพิ่มไปเรื่อยๆ หรือมีการดึงเงินออก อันนี้อาจหาค่าให้ตรงจริงๆได้ยาก
ทำให้ต้องใช้วิธีอื่นๆ
แบบแรก แบบค่าเฉลี่ย
โดยนำเงินทุน ต้นปี + ปลายปี หาร สอง
ตัวอย่าง ต้นปีเงินทุน 1,000,000 กลางปี ใส่เงินเข้าพอร์ตอีก 500,000 มูลค่าพอร์ตกลางปีเป็น 1,500,000 พอสิ้นปี มูลค่าพอร์ตเป็น 1,800,000
คำนวนได้ (1,000,0000+1,500,000)/2 = 1,250,000 เป็นฐาน
ผลตอบแทนเท่ากับ 1,800,000/1,250,000 = 44%
อันนี้จะเป็นการคำนวนแบบคร่าวๆ
อีกแบบคือ การคำนวน แบบ IRR โดยใช้ Excel
เราต้องจดวันที่ ที่เงินเข้าและเงินออกทุกครั้ง
ต้องเข้าใจว่า IRR คือการคำนวน โดยอิงเวลาคือ 1ปี ดังนั้น หากเราทำผลตอบแทนได้เดือนละ 20% IRR จะคำนวนว่า เราจะทำได้แบบนี้ทุกเดือน แล้วคิดเป็นปี
ดังนั้นการใช้ IRR เราจะไม่เห็นผลตอบแทนที่แท้จริงระหว่างปี จนกว่าจะครบปี (ระหว่างปี ตัวเลขจะสูงเกินจริง) แต่ข้อดีคือเมื่อครบปี จะคำนวนเงินทุกก้อนที่ใส่หรือถอนจากพอร์ต โดยคำนวนถึงเวลาที่เงินทำงานในพอร์ตด้วย
อีกวิธีคือ การคำนวนแบบ NAV
เช่นเงินลงทุนเริ่มแรก 1,000,000 บ เรากำหนดให้ หน่วยละ 10 บ.
จะได้ 100,000 หน่วย (เพื่อความสะดวก เราจะใช้ NAV ของสิ้นวันก่อนหน้าเป็นตัวคำนวนเมื่อซื้อหรือขายหน่วยลงทุน)
โดยหลักๆ คือการเก็บข้อมูลครบๆ
-วันที่ในการเพิ่มเงินเข้าพอร์ต และถอนเงินออกจากพอร์ต
-มูลค่าพอร์ต ณ วันที่ใส่เงินเข้า หรือถอนเงินออก
-มูลค่าพอร์ต ณ สิ้นปี
ถ้าข้อมูลครบ จะคำนวนย้อนหลังแบบไหนก็ทำได้หมด และที่สำคัญคือ เงินที่เตรียมไว้ในพอร์ต แม้จะไม่ได้ซื้อหุ้น ก็ต้องนับเป็นฐานเงินต้น เทียบได้กับเวลาเราซื้อกองทุน แต่ละกองทุนก็ไม่ได้นำเงินเราไปซื้อหุ้นทั้ง 100% จะมีส่วนที่เป็นเงินสดเพื่อคงสภาพคล่องไว้เสมอ แต่เวลาคำนวนก็จะนำมาคำนวนทั้งหมด เช่น ใส่เงินเข้าพอร์ต ไว้รอซื้อหุ้น 1,000,000 แต่ซื้อไปได้ 700,000 อีก สามแสน เป็นเงินรอราคาหุ้นให้ลงมา รอทั้งปี แล้วก็ยังไม่ได้ซื้อ เวลาคำนวน ก็ต้องนับ 1,000,000 เป็นฐาน
ปัจจุบันผมใช้แบบ NAV
กรณีที่เงินต้นคงที่ตลอดทั้งปี ก็คงวัดได้ไม่ยาก
เช่น เงินต้น 1 ล้าน ถือหุ้น 70% ก็ 700,000 และสำรองเงินสดไว้สำหรับซื้อหุ้นอีก 300,000
เลขที่ใช้เป็นฐาน ก็คือ 1,000,000 พอครบปี พอร์ตรวมเงินกลายเป็น 1,150,000
ก็จะได้ 1,150,000/1,000,000 = 15%
แต่กรณีที่ มีการใส่เงินสดเข้าพอร์ตเพิ่มไปเรื่อยๆ หรือมีการดึงเงินออก อันนี้อาจหาค่าให้ตรงจริงๆได้ยาก
ทำให้ต้องใช้วิธีอื่นๆ
แบบแรก แบบค่าเฉลี่ย
โดยนำเงินทุน ต้นปี + ปลายปี หาร สอง
ตัวอย่าง ต้นปีเงินทุน 1,000,000 กลางปี ใส่เงินเข้าพอร์ตอีก 500,000 มูลค่าพอร์ตกลางปีเป็น 1,500,000 พอสิ้นปี มูลค่าพอร์ตเป็น 1,800,000
คำนวนได้ (1,000,0000+1,500,000)/2 = 1,250,000 เป็นฐาน
ผลตอบแทนเท่ากับ 1,800,000/1,250,000 = 44%
อันนี้จะเป็นการคำนวนแบบคร่าวๆ
อีกแบบคือ การคำนวน แบบ IRR โดยใช้ Excel
เราต้องจดวันที่ ที่เงินเข้าและเงินออกทุกครั้ง
ต้องเข้าใจว่า IRR คือการคำนวน โดยอิงเวลาคือ 1ปี ดังนั้น หากเราทำผลตอบแทนได้เดือนละ 20% IRR จะคำนวนว่า เราจะทำได้แบบนี้ทุกเดือน แล้วคิดเป็นปี
ดังนั้นการใช้ IRR เราจะไม่เห็นผลตอบแทนที่แท้จริงระหว่างปี จนกว่าจะครบปี (ระหว่างปี ตัวเลขจะสูงเกินจริง) แต่ข้อดีคือเมื่อครบปี จะคำนวนเงินทุกก้อนที่ใส่หรือถอนจากพอร์ต โดยคำนวนถึงเวลาที่เงินทำงานในพอร์ตด้วย
อีกวิธีคือ การคำนวนแบบ NAV
เช่นเงินลงทุนเริ่มแรก 1,000,000 บ เรากำหนดให้ หน่วยละ 10 บ.
จะได้ 100,000 หน่วย (เพื่อความสะดวก เราจะใช้ NAV ของสิ้นวันก่อนหน้าเป็นตัวคำนวนเมื่อซื้อหรือขายหน่วยลงทุน)
โดยหลักๆ คือการเก็บข้อมูลครบๆ
-วันที่ในการเพิ่มเงินเข้าพอร์ต และถอนเงินออกจากพอร์ต
-มูลค่าพอร์ต ณ วันที่ใส่เงินเข้า หรือถอนเงินออก
-มูลค่าพอร์ต ณ สิ้นปี
ถ้าข้อมูลครบ จะคำนวนย้อนหลังแบบไหนก็ทำได้หมด และที่สำคัญคือ เงินที่เตรียมไว้ในพอร์ต แม้จะไม่ได้ซื้อหุ้น ก็ต้องนับเป็นฐานเงินต้น เทียบได้กับเวลาเราซื้อกองทุน แต่ละกองทุนก็ไม่ได้นำเงินเราไปซื้อหุ้นทั้ง 100% จะมีส่วนที่เป็นเงินสดเพื่อคงสภาพคล่องไว้เสมอ แต่เวลาคำนวนก็จะนำมาคำนวนทั้งหมด เช่น ใส่เงินเข้าพอร์ต ไว้รอซื้อหุ้น 1,000,000 แต่ซื้อไปได้ 700,000 อีก สามแสน เป็นเงินรอราคาหุ้นให้ลงมา รอทั้งปี แล้วก็ยังไม่ได้ซื้อ เวลาคำนวน ก็ต้องนับ 1,000,000 เป็นฐาน
ปัจจุบันผมใช้แบบ NAV
วันศุกร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2557
MINT
MINT
บริษัทดำเนินธุรกิจประกอบด้วย 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่น ธุรกิจร้านอาหาร ได้แก่ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี, สเวนเซ่นส์, ซิซซ์เลอร์, แดรี่ควีน, เบอร์เกอร์ คิง, ไทยเอ็กซ์เพรส, เดอะ คอฟฟี่ คลับ, ริบส์ แอนด์ รัมส์ และริเวอร์ไซด์ ธุรกิจโรงแรมประกอบด้วยโรงแรมทั้งสิ้น 42 โรงแรม และ 40 เซอร์วิส สวีท ภายใต้เครื่องหมายการค้าอนันตรา, โอ๊คส์, อาวานี่, โฟร์ซีซั่นส์, เซ็นต์ รีจิส, แมริออท, เอเลวาน่า ในประเทศไทย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ มัลดีฟส์ เวียดนาม แทนซาเนีย เคนยา ตะวันออกกลาง ศรีลังกา มาเลเซีย จีน และอินโดนีเซีย ธุรกิจด้านการจัดจำหน่ายสินค้าแฟชั่นจากต่างประเทศ ได้แก่ แก๊ป, เอสปรี, บอสสินี่, ชาร์ล แอนด์ คีธ, เพโดร, เรดเอิร์ธ, ทูมี่ เป็นต้น
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 อันดับแรก(@07 มี.ค. 2557) | จำนวนหุ้น | % | |
1. | บริษัท ไมเนอร์ โฮลดิ้ง (ไทย) จำกัด | 661,606,982 | 16.53 |
2. | UBS AG SINGAPORE BRANCH | 475,414,006 | 11.88 |
3. | บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด | 360,311,821 | 9.00 |
4. | นาย นิติ โอสถานุเคราะห์ | 313,486,452 | 7.83 |
5. | นาย วิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค | 240,025,980 | 6.00 |
6. | CREDIT SUISSE AG, SINGAPORE BRANCH | 152,916,094 | 3.82 |
7. | STATE STREET BANK EUROPE LIMITED | 124,228,745 | 3.10 |
8. | MR. WILLIAM ELLWOOD HEINECKE | 102,148,047 | 2.55 |
9. | พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช | 87,689,741 | 2.19 |
10. | บริษัท ทุนลดาวัลย์ จำกัด | 76,692,126 | 1.92 |
คณะกรรมการ | ตำแหน่ง | |
1. | นาย วิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค | ประธานกรรมการ / ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร |
2. | นาย พอล ชาลีส์ เคนนี่ | กรรมการ |
3. | นาย เอ็มมานูเอล จู๊ด ดิลิปรัจ ราชากาเรีย | กรรมการ |
4. | นาย อานิล ธาดานี่ | กรรมการ |
5. | นาย ธีรพงศ์ จันศิริ | กรรมการ |
6. | นาย จอห์น สก็อต ไฮเน็ค | กรรมการ |
7. | นาย เคนเนธ ลี ไวท์ | กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการตรวจสอบ |
8. | คุณหญิง ชฎา วัฒนศิริธรรม | กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบ |
9. | นาย พาที สารสิน | กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบ |
ข้อมูลสถิติ | YTD 14 มี.ค. 2557 | 2556 27 ธ.ค. 2556 | 2555 28 ธ.ค. 2555 |
จำนวนหุ้นจดทะเบียน (ล้านหุ้น) | 4,001.36 | 4,001.36 | 3,686.77 |
ราคาพาร์ (บาท) | 1.00 | 1.00 | 1.00 |
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (ลบ.) | 103,034.90 | 82,828.06 | 72,260.63 |
ราคา (บาท/หุ้น) | 25.75 | 20.70 | 19.60 |
มูลค่าหุ้นทางบัญชีต่อหุ้น (บาท/หุ้น) | 6.27 | 5.81 | 4.54 |
P/BV (X) | 4.11 | 3.57 | 4.35 |
P/E (X) | 25.12 | 22.21 | 26.80 |
อัตราหมุนเวียนปริมาณการซื้อขาย (%) | 11.28 | 64.33 | 67.27 |
มูลค่าซื้อขาย/วัน (ลบ.) | 200.57 | 249.48 | 151.54 |
การจ่ายปันผล | ||||
รอบผลประกอบการ | เงินปันผล (ต่อหุ้น) | หน่วย | วันจ่ายปันผล | ประเภท |
31 ธ.ค. 2555 | 0.30 | บาท | 30 เม.ย. 2556 | เงินปันผล |
01 ม.ค. 2554 - 31 ธ.ค. 2554 | 0.15 | บาท | 30 เม.ย. 2555 | เงินปันผล |
01 ม.ค. 2554 - 31 ธ.ค. 2554 | 10.00 : 1.00 | หุ้น | 30 เม.ย. 2555 | หุ้นปันผล |
01 ม.ค. 2553 - 31 ธ.ค. 2553 | 0.15 | บาท | 28 เม.ย. 2554 | เงินปันผล |